วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

สวนป่า ออป.ท่าแซะ ชุมพร พร้อมทหาร ป่าไม้ ตรวจยึดคืนพื้นที่ถูกบุกรุก 200 กว่าไร่

                วันนี้ (4 กรกฎาคม 2557) เวลาประมาณ 10.00 น. ได้มีการสนธิกำลังระหว่างเจ้าหน้าที่ ออป., ป่าไม้, ทหาร, ตชด. 414, ชรบ. ต.หงษ์เจริญ พร้อมสื่อมวลชน รวมจำนวน 50 กว่านาย   นำโดยนายสุชาติ ทับเคลียว หัวหน้าฝ่ายจัดการสวนป่าองค์การอุสาหกรรมป่าไม้เขตสุราษฎร์ธานี  นายวิชาญ ไชยถาวร ผู้จัดการองค์การอุสาหกรรมป่าไม้เขตสุราษฎร์ธานี  และนายรังสรรค์  มหานิล หน.สวนป่าสลุย-ท่าแซะ ตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนคืนจากผู้บุกรุก จำนวน 6 แปลง เนื้อที่ 200 กว่าไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลของ สวนป่าสลุย-ท่าแซะ  สังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตภาคใต้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ออป.)   คณะเจ้าหน้าที่ประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ในสังกัดองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตสุราษฎร์ธานี องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามอนุมัติ ออป.สฎ. ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2557,  หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.2 (ยายไท), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชพ.11 (สามปาก),  เจ้าหน้าที่จังหวัดทหารบกชุมพร,  เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสลุย,  เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 414,  เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ช.ร.บ.) หมู่ 11 ตำบลหงส์เจริญ,  เจ้าหน้าที่ชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่ 4102 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ทัพภาค 4 ส่วนแยก 1,  จ้าหน้าที่หมวดรักษาความสงบ ที่ 2 ร้อยรักษาความสงบ จทบ.ช.พ. พื้นที่เกิดเหตุ ป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณสวนป่าสลุย-ท่าแซะ หมู่ที่ ตำบลสลุย อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร แปลงปลูกสร้างไม้ยูคาลิปตัสและกระถินยักษ์ แปลงปี  2527 และแปลงปลูกไม้ยางนา และยางพาราที่ทางสวนป่า-รับร่อสลุยดำเนินการปลูกไว้       



















อนึ่ง ในการตรวจยึดครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจยึดได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่ มิได้บังคับขู่เข็ญ ให้คำมั่น หลอกลวง ทรมาน ใช้กำลังบังคับหรือกระทำการโดยมิชอบประการอื่นใด อีกทั้งมิได้ทำให้ทรัพย์สินของผู้ใด เสียหาย หรือสูญหาย หรือเสื่อมค่าอย่างหนึ่งอย่างใด หรือเรียกร้องเอาทรัพย์สินใดๆ มาเป็นประโยชน์ส่วนตัว เจ้าหน้าที่ที่ร่วมตรวจยึดจึงร่วมลงลายชื่อไว้เป็นหลักฐาน และได้นำเรื่องราวเข้าส่งพนักงานสอบสวน สภ. สลุย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และงานสวนป่าฯ จะปลูกป่าทดแทนพื้นที่ที่ถูกบุกรุกนี้ตามแผนการดำเนินการต่อไป
เจ้าหน่้าที่ที่ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดว่าด้วยการป่าไม้ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่ารับร่อ-สลุย บริเวณสวนป่าสลุย-ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และเป็นป่าตามพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ตรวจพบการกระทำผิดบริเวณแปลงปลูกสร้างสวนป่าแปลงปี 2527 สวนป่าสลุย-ท่าแซะ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร พบว่ามีการปักหลักหมายแนวแล้วนำต้นปาล์มน้ำมันมาปลูกไว้ในพื้นที่เพื่อหวังยึดถือครอง และบางแปลงได้มีการปลูกสิ่งก่อสร้างเช่นบ้านพักชั่วคราว และเป็นลักษณะถาวร จำนวน 2 หลัง ขณะเข้าตรวจสอบไม่พบผู้ใดอยู่ในที่เกิดเหตุ  จึงไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด
                   คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิดดังนี้
                     1.“ยึดถือครอบครองหรือทำประโยชน์หรืออาศัยในที่ดิน ก่นสร้างแผ้วถาง เผาป่า ทำไม้หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ”
                     2.“ร่วมกันก่นสร้าง แผ้วถางเผาป่า หรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการทำลายป่าไม้ หรือเข้ายึดถือครอบครองเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่”
                   ตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14และพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 และมาตรา 55
                   3. “บุกรุกอสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา”
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ทั้ง 6 แปลง รวมประมาณ 200 กว่าไร่ ในการนี้ทำให้รัฐได้รับความเสียหายคิดเป็นเงินเกือบ 14 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดพื้นที่ คณะเจ้าหน้าที่ฯพิจารณาแล้วจึงได้จัดทำบันทึกการตรวจยึด แผนที่สังเขปแสดงบริเวณที่เกิดเหตุ บัญชีทรัพย์สินของกลางและภาพถ่ายในที่เกิดเหตุแล้วมอบหมายให้ นายรังสรรค์ มหานิล หัวหน้างานสวนป่าสลุย-ท่าแซะ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตภาคใต้ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ลงวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2547 เป็นผู้นำเรื่องราวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสลุย เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป.               
                  































1 ความคิดเห็น:

เหรียญที่ระลึก ร.9 กล่าวว่า...

ข้อเสนอแนะครับ...เรื่องแนวเขตป่าไม้ก็สำคัญมาก...พราะเป็นข้ออ้างว่าไม่ทราบแนวเขต..ไม่เห็นมีรั้วหรือป้ายแสดงแนวเขตป่าไม้ที่ชัดเจน...ท่านอธิบดีทั้ง2กรม..กรมป่าไม้/กรมอุทยานฯ...โปรดสั่งการให้หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า/หัวหน้าอุทยานฯ/หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า...นำเมล็ดพันธ์ไม้ยืนต้นและโตเร็ว..ไปหว่านหรือเพาะชำที่หน่วย..เมื่อกล้าไม้โตขึ้นก็ให้นำไปปลูกตามแนวเขตป่าไม้...ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ต้องรู้แนวเขตอยู่แล้ว...เมื่อต้นไม้โตขึ้นใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงเรื่องแนวเขตป่าไม้ได้ไงครับ....ไม่ต้องใช้เงินงบประมาณ....เรื่องง่ายๆๆท่านอธิบดีทำได้ไหมครับ

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...