เอกภาพทวงคืนป่า
พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่า ได้หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เบื้องต้นระดับหนึ่ง ถึงการทำงานร่วมกัน ภายหลังกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชมีความเห็นไม่ลงรอยกับกรมที่ดิน การทำงานไม่เป็นเอกภาพของ 2 หน่วยงานรัฐ ส่งผลกระทบต่อนโยบายทวงคืนผืนป่า ไม่สามารถยกเลิก เพิกถอนโฉนดที่ดินที่มีการบุกรุกพื้นที่อุทยานคืนกลับมาเป็นของรัฐได้ในพื้นที่เป้าหมาย พล.อ.ดาว์พงษ์ยืนยัน นับจากนี้ไป กรมที่ดินและกรมอุทยานฯต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ความขัดแย้งระหว่าง 2 หน่วยงานรัฐ เกิดขึ้นอย่างน้อย 2 จุด ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่มีการบุกรุกรุนแรง เนื่องจากที่ดินราคาสูง แห่งแรกบริเวณหาดฟรีดอม เขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด 65 ไร่ กรมอุทยานฯทักท้วงกรมที่ดินว่า ออกเอกสารสิทธิไม่ถูกต้อง ขอให้เพิกถอน แต่กรมที่ดินยืนยันว่า ถูกต้อง
แต่หลังจาก คสช.ยึดอำนาจการปกครอง ประกาศเอาจริงเอาจังกับการบุกรุกป่า กรมที่ดินรับที่จะทบทวน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม อีกกรณีคือการออกโฉนดให้เอกชน 50 แปลง ในพื้นที่อุทยานสิรินาถ กรมที่ดินยืนยันออกถูกต้อง แต่กรมอุทยานฯตรวจสอบพบในส่วนที่ตั้งโรงแรมดังเป็นพื้นที่น้ำทะเลท่วมถึง ออกโฉนดไม่ได้เด็ดขาด
การที่ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ หารือกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ เป็นนิมิตหมายการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ดี ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมานั้น กรมอุทยานฯ-กรมที่ดินพูดจาคนละภาษา ต่างฝ่ายต่างยืนยันว่า ได้ดำเนินการถูกต้องตามตัวบทกฎหมายของแต่ละหน่วยงานที่ได้ให้อำนาจไว้
เมื่อฝ่ายนโยบายมีความชัดเจนว่า ไม่ว่าในอดีตจะมีข้อขัดแย้งอะไรเกิดขึ้นระหว่างสองหน่วยงานนี้ก็ตาม แต่ต่อไปต้องร่วมมือกันทำงานอย่างใกล้ชิด ปัญหาอันเคยมีน่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ไม่เป็นอุปสรรคต่อนโยบายหลักที่ได้ประกาศไป
คสช.ออกคำสั่งที่ 64/2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ หน่วยงานรัฐหลายแห่งกระตือรือร้น กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ที่มีข้อมูลอยู่ในมือพร้อม เข้าไปจัดการแก้ปัญหาหลายพื้นที่ แต่บางจังหวัดอย่างภูเก็ตติดขัด ไม่สามารถดำเนินการได้โดยง่าย
การที่ฝ่ายนโยบายมีแนวทางการทำงานชัดเจน การประสานงานอย่างใกล้ชิดจะเป็นผลดีต่อการแก้ปัญหาบุกรุกป่า โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์พื้นที่ที่มีปัญหาให้ได้ข้อมูลแท้จริง อันจะนำมาสู่การตัดสินใจทางกฎหมายต่อไป หากหน่วยงานรัฐมีเอกภาพในการทำงาน การสะสางปัญหาบุกรุก ครอบครองผืนป่า ไม่น่าจะยาก เนื่องจากมีกฎ ระเบียบชัดเจนเป็นหลักยึดอยู่แล้ว ที่ต้องกวดขันเป็นพิเศษคือ วินัยและจิตสำนึกเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น