"ทส. ผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง
หน่วยพญาเสือ กรมอุทยานฯ, ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้,
ชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเล ในการทวงคืนผืนป่า"
ภายหลังจากที่
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบนโยบาย
ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ปราบปรามการเกี่ยวกับการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้
และที่ดินป่าไม้ ในการดำเนินการทวงคืนผืนป่า
ของ 3 กรมฯ ปฏิบัติการผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง หน่วยพญาเสือ
กรมอุทยานแห่งชาติฯ, ชุดพยัคฆ์ไพร
กรมป่าไม้, ชุดฉลามขาว
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, และทำงานร่วมกับ ทหาร
กอรมน. ปทส. ฝ่ายทหาร, ตร, ดีเอสไอ. ป.ป.ท. ฝ่ายปกครอง
และจนท.หน่วยงานในพื้นที่
ช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. 59 คณะเจ้าหน้าที่ได้มีการประชุมวางแผนร่วมกัน ณ
ห้องประชุมที่ทำการ อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่
ในการดำเนินการเข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุกครอบครองที่ดิน ในเขต อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ซึ่งประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติฯ หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า
หรือ (ฉก.พญาเสือ) นำโดยนายชัยวัฒน์
ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุด พลตรี รณรงค์
โคตรดำรงค์ รอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการที่ 4 กอ.รมน.
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส.) นำทีมโดย พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ รอง ผบก.ปทส. ร่วมกับ
จนท.จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
(ป.ป.ท.)
เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในจังหวัดกระบี่
จนท. สบอ. 5 (นครศรีธรรมราช) และ
จนท.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่บุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบในบริเวณ ป่าเสม็ดแดง-เสม็ดขาว จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าได้มีการปักหมุดแสดงสิทธิ์ครอบครอง
และได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ขายเป็นล็อก ๆ บนเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 100 ไร่ จากตรวจสอบพบว่าหลักหมุด ไม่ตรงตามเอกสาร
และแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียม
หากผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมีการนำเอกสารมาแสดงก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่า
เป็นเอกสารที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
การเข้าตรวจสอบพื้นที่ครั้งนี้ดำเนินการ ตามมติ
ครม. 30 มิ.ย. 41
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า “ช่วงเช้าของวันนี้! เป็นวันที่ทำงานรู้สึกแย่มากๆ เมื่อเข้าไปพบแปลงที่สอง
ที่มีการบุกรุกพื้นที่ เผาป่า ทำไม้
แปรรูปไม้ จากสภาพพื้นที่ที่เห็นเป็นป่าชายหาดที่สมบูรณ์ มีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดง
ที่มีอายุ ไม่น้อยกว่า ร้อยปี เป็นป่าที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น
กลับถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง จนท. ทุกฝ่าย ยืนยันอย่างเข้มแข็ง ในทิศทางเดียวกันว่า
ต้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างเด็ดขาด และต้องตรวจสอบที่มา ของการได้มาซึ่งพื้นที่ตรงนี้ และเป็นผู้ที่ทำให้ป่าถูกทำลาย เป็นที่มา
ของการทำลายป่า ทุกคนทุกฝ่าย
ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการที่ได้มาเอกสารสิทธิ์ว่ามาอย่างไร? แต่ที่สำคัญ อยู่ตรงข้ามที่ทำการ
อช.หาดนพรัตน์ธารา - เกาะพีพี ซึ่งเสียหาย
และถูกทำลายไปแล้วนับร้อยไร่ จากการเข้าไปดำเนินการเมื่อช่วงเช้าของวันนี้
ได้ให้ทาง หน. อช.หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
ติดต่อเจ้าของได้ แต่มีการบอกมาว่า
ที่ดินที่เป็นป่าเสม็ดแดง-เสม็ดขาวนั้นมีเอกสารสิทธิ์ จนท.
ทุกฝ่ายกำลังรอเอกสารที่เจ้าของอ้าง เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป" นายชัยวัฒน์
กล่าว
และนายชัยวัฒน์ยังกล่าวต่ออีกว่า
วันนี้! ได้เข้าดำเนินการร่วม พลตรี รณรงค์ โคตรดำรงค์ รอง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการที่
4 กอ.รมน. จนท.จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ปปท. ปทส. พญาเสือ ทหาร ตร และ จนท สำนักป้องกันปราบปรามฯ
กรมอุทยานฯ ตรวจสอบพื้นที่บุกรุกป่า มีการเผาทำลาย และมีการเข้าปักหลักที่ดินเพื่อการจับจองเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
หลายราย ทั้งนี้ จนท.ชุดพญาเสือ โดยฝ่ายตรวจสอบเอกสาร นำโดยนายอุดมพร
จากสำนักฟื้นฟู ได้ทำหนังสือไปยังสำนักงานที่ดินในจังหวัดกระบี่เพื่อขอเอกสาร
เพื่อตรวจสอบว่า มีผู้ใดมีการแสดงการจอง หรือแสดงการครอบครองที่ดิน
แล้วจะนำรายขื่อที่มีมาแจ้งข้อกล่าวหากับทุกราย ยกเว้น
แปลงที่มีร่องรอยการทำกินมาก่อนในบาง
แต่รายดังที่กล่าวนี้จะนำหลักฐานมาพิสูจน์ ว่ามาก่อนป่าคุ้มครองหรือไม่
แต่มีบางรายนำเอกสารมาแสดง ใน นส. 3 ก. อ้างว่า ที่ดินก่อนหน้านี้ได้มาเป็นที่นา
เคยทำนามาก่อน สรุป จนท ทุกนายเห็นพ้องต้องกันว่า
ให้ดำเนินคดีกับรายที่แปลภาพถ่ายดาวเทียมแล้วไม่ตรง จะดำเนินคดีทั้งหมด
เบื้องต้นพื้นที่ มีไม่น้อยกว่าร้อยไร่
และกำลังพิจารณาว่ามีผู้ส่งเสริมหรือรู้เห็น ให้มีการออกเอกสารที่ดิน และอาจจะมี
จนท.ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะแจ้งข้อหาฐานร่วมกันในข้อหาบุกรุกป่าด้วย
ทั้งนี้ ! พลตรี รณรงค์ และ ดีเอสไอ ปปท. ปทส. ตร. ทหาร พญาเสือ จะแจ้งข้อกล่าวหา
จนท.รัฐ ที่ทุจริต เพื่อส่งสำนวนไปให้ ปปท. รวบรวม ส่งไปยัง ปปง. ต่อไปด้วย
และเมื่อตรวจสอบได้ว่า หากที่มาของเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
ได้มาอย่างไม่ถูกต้องจะดำเนินให้อายัด ทั้งสองคดี คือคดีของ นายมานพ ผญบ. ม.4
ต.อ่าวนาง ที่เป็นเจ้าของบ่อดิน
ที่ขุดดินใน อช. หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
และที่สำคัญ และเป็นเหตุให้ทุกฝ่าย กังวลใจ คือ การบุกรุก สองรายนี้
ติดกับที่ทำการอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ด้วย.
(ชมคลิปข่าวด้านล่าง)
ที่มา..เพจกรมอุทยานแห่งชาติฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น