วันนี้วันที่ 24 พ.ย. 2559 กรมป่าไม้ โดยชุดพยัคฆ์ไพร สนธิกำลัง
ศปป4.กอ.รมน.กอ.รมน.จ.พช. นายอำเภอหล่มเก่า
จนท.ตชด.และกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นับ 100 นาย เข้าตรวจยึดพื้นที่จากกลุ่มทุนใหญ่ในเขตป่าต้นน้ำป่าสักในหมู่บ้านซำปุ่น
ตำบลศิลา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดีกลุ่มทุนนอกพื้นที่
จำนวน 3,437 ไร่ และขยายตรวจสอบพื้นที่อีก 2,000 ไร่
ตามที่นายชลธิศ สุรัสวดี
อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้ นายอรรถพล เจริญชันษา และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม
อำนวยการนำชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มทุนขบวนการที่เข้ามายึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำป่าสัก
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย
พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
กําหนดให้มีการดําเนินคดี กับกลุ่มทุน โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช. ที่ 64,
66/2557 และคําสั่ง คสช.ที่ 13/2559
การปฏิบัติการยึดคืนในครั้งนี้ ภายใต้การนำของ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม , พอ.พงษ์เพชร
เกษสุภะ ศปป4.กอ.รมน., นายอำเภอหล่มเก่า, นาย สักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.สปป.3 (ภาคเหนือ) เข้าปฏิบัติการดังนี้
1. จากการสืบทราบของชุดปฏิบัติการ
ๆทราบว่ามีขบวนการกลุ่มทุนจากทางภาคเหนือ เข้ามายึดถือครอบครองที่ดินในเขต
ตำบลศิลา อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวนมาก
และนำที่ดินดังกล่าวมาให้ชาวบ้านในพื้นที่เช่าทำกินราคาไร่ละประมาณ 300บาท/ไร่ โดยที่ดินดังกล่าวบางส่วนยังมีสภาพเป็นป่า
และชาวบ้านที่ได้เช่าที่ดินได้เข้าแผ้วถางป่าไปจำนวนมากโดยเข้าใจว่าสามารถกระทำได้
และได้มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
2.
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมเข้าตรวจสอบพื้นที่
ร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เช่าที่ดินดังกล่าว
ได้ข้อสรุปว่าให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจยึดดำเนินคดี
และนำพื้นที่ดังกล่าวมาปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำป่าสัก
ตามแผนงานของกรมป่าไม้ต่อไป และชาวบ้านจะมีส่วนร่วมในการดูแลผืนป่าดังกล่าวต่อไป
ในส่วนชาวบ้านที่ทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ให้สามารถทำกินต่อไปได้โดยอาศัยคำสั่งที่ 66/2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติๆซึ่งเป็นที่พอใจของชาวบ้าน
3.
คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดดำเนินคดีพื้นที่ จำนวน 3,437 ไร่ และจะดำเนินการขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติมอีกจำนวน 2,000 ไร่
และจากข้อมูลเชิงลึกพบว่ากลุ่มทุนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการครอบครองที่ดินของ
บริษัท ศรีตรัง การยาง จำกัด. ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน
4. ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร
จะดำเนินการขยายผลและส่งเรื่องราวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน ได้แก่
กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI), ปปท, ปปง,
หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า "สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติการในครั้ง
เป็นการร่วมบูรณาการในการทำงานกันของชุดการข่าวของชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร
กรมป่าไม้ และชุดการข่าวของชุดปฏิบัติการ ศปป4.กอ.รมน. ที่ร่วมปฏิบัติการด้านการข่าวเชิงลึกของขบวนการ
จนสามารถทราบความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการและขยายผลติดตามเข้าตรวจยึดจับกุมขบวนการนี้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” ต่อไป
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม. หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กล่าว.










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น