พยัคฆ์ไพร
อึ้งตรวจพบมะค่าโมงยักษ์อายุหลายร้อยปี มูลค่าหลายล้านบาท
ถูกแปรรูปรอส่งลูกค้าไฮโซ กลางป่าต้นน้ำยม
ภายหลังจากอธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ
สุรัสวดี
ลงพื้นที่ติดตามแผนปฏิบัติการตัดทำลายเส้นทางขบวนการบุกรุกป่าและลักลอบทำไม้ข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในป่าต้นน้ำแม่ยมเขตรอยต่อ
จ.แพร่ และน่าน เพื่อปกป้องพื้นที่ป่าสมบูรณ์ต้นน้ำแม่ยมนับแสนไร่
จุดดังกล่าวถือว่าเป็นป่าไม้ชิงชันที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศ
อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอรรถพล
เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม
หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ประสานสนธิกำลัง
นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าเปิดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มทุนและผู้มีอิทธิพลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินและลักลอบทำไม้มีค่าหายากโดยเฉพาะไม้ชิงชัน
อย่างต่อเนื่องในเขตป่าต้นน้ำแม่น้ำยม ท้องที่ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน
และขบวนการจะใช้เส้นทางขนย้ายไม้ผ่านทางหมู่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา
จ.น่าน ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมขบวนการๆอย่างต่อเนื่อง
นายอรรถพล เจริญชันษา
จึงเสนอแนวทางเชิงรุกโดยใช้วิธีตัดทำลายเส้นทางที่ขบวนการใช้ขนย้ายไม้ที่ลักลอบทำออกจากป่านั้น
จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ความคืบหน้าล่าสุดของการ
ปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการตัดทำลายเส้นทางนำโดย
นายมนตรี พลภักดี หัวหน้าชุดๆได้ดำเนินการตัดทำลายเส้นทางไปแล้วจำนวน 3จุดภายใต้สภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีฝนตกมาอย่างต่อเนื่องสร้างความยากลำบากต่อการทำงาน
ชุดปฏิบัติการๆพร้อมชุดรักษาความปลอดภัยที่ต้องพักค้างแรมในป่าได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรไปยังจุดเส้นทางที่
2 เพื่อเริ่มดำเนินการต่อเนื่องตามแผนการปฏิบัติการในเช้าวันที่
17 ธ.ค. 2559 อีกเป็นเส้นทางที่ 2
และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมด้วยนาย ศักดิ์รินทร์
ปัญญาใจ นำชุดปฏิบัติการๆตรวจค้นหาเส้นทางของขบวนการๆอีกอย่างต่อเนื่อง
และเมื่อเวลาตอนบ่ายของวันเดียวกันสามารถตรวจสอบพบเส้นทางของขบวนการเพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง
โดยลักษณะของเส้นทางคล้ายกันคือรูปแบบมีการตัดเจาะตัดทางเข้าไปในป่าลึกเป็นอุโมงค์ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ทางอากาศยานและการแปลภาพถ่ายทางอากาศ
ด้านหน้าของเส้นทางมีการอำพรางไว้ด้วยการติดป้ายห้ามชาวบ้านที่จะเข้าไปเก็บหาของป่าเข้าไป
มีการอำพรางให้เห็นเป็นเพียงคอกเลี้ยงวัวของชาวบ้านลักษณะแบบเดียวกับส้นทางจุดที่1 ที่เพิ่งตัดทำลายไป แต่เมื่อชุดปฏิบัติการขยายผลตรวจสอบลึกเข้าไปในเส้นทางที่แอบเจาะทางเป็นอุโมงค์เข้าไปในป่าลึกพบจุดการทำไม้ชิงชันพร้อมของกลางไม้ชิงชันเพิ่มจำนวน
2 จุด
และภายหลังเมื่อขยายผลลึกเข้าไปในเส้นทางที่เป็นป่าที่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์มาก
คณะเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อตรวจพบจุดพักไม้ 2 จุดขนาดใหญ่ตรวจพบต้นมะค่าโมงยักษ์และต้นประดู่ขนาดใหญ่หลายคนโอบ
ถูกแปรรูปในสภาพสดถูกตัดพันแปรรูปได้ไม่นานนักและถูกซุกซ่อนไว้ด้วยวัสดุปิดคลุมอย่างดีเพื่อรักษาเนื้อไม้และป้องกันการตรวจพบทางอากาศยาน นาย ศักดิ์รินทร์ ปัญญาใจ
ตรวจสอบขนาดและอายุคราวๆพบว่าเป็นต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่มากน่าจะมีขนาดหลายคนโอบน่าจะมีขนาดใหญ่กว่าต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกที่จังหวัดอุตรดิตถ์เสียอีก
อายุน่าจะ 300 ปีเศษ
และตรวจสอบพบว่าส่วนท่อนโคนของลำต้นมะค่ายักษ์ได้ถูกขบวนการขนย้ายออกไปแล้ว
ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม
ให้รายละเอียดว่าตั้งแต่รับราชการมา 30 ปี ไม่เคยพบต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ในป่าธรรมชาติแบบนี้
เพราะในช่วงเวลาหนึ่งก่อนปี 2525 ประเทศไทยเรายังให้มีการสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ
มีการทำไม้ออกและไม้มะค่าขนาดใหญ่ก็จะถูกตัดออกไปสำหรับนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ของกลุ่มคนกระเป๋าหนักมีการประกวดประชันกันถ้าใครได้ครอบครองไม้หน้าใหญ่
บางรายเหมาซื้อไว้ประดับบารมีเป็นคันรถสิบล้อทำให้ต้นมะค่าโมงขนาดใหญ่ในป่าเมืองไทยสูญตาไป
จะหาดูได้ก็ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วตามโรงแรม รีสอร์ท ตามวัดวาอาราม
หรือตามบ้านผู้มีอันจะกิน บางแผ่นเมื่อขนย้ายถึงมือผู้บริโภค
ราคาสูงลิบลิ่วถึงแผ่นละหลายแสนบาท
เมื่อประมาณการแล้วต้นมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้มูลค่าเมื่อขบวนการๆขนส่งถึงปลายทางแล้วมูลค่าหลายล้านบาท
และเมื่อเทียบเคียงอายุแล้วมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้น่าจะงอกเกิดขึ้นตอนช่วง
สมเด็จพระนเรศมหาราช ช่วงกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 300 กว่าปี มาแล้วเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
ซึ่งเส้นทางนี้ต้องดำเนินการตัดทำลายเพื่อสกัดกั้นขบวนการๆให้ได้
และสำหรับความคืบหน้าการขยายผลถึงขบวนการๆภายหลัง ชุดปฏิบัติการของ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(บก.ปทส)ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวบ้านในท้องที่เกิดเหตุ
เมื่อวันแรกของการปฏิบัติการและสามารถขยายผลทราบเบาะแสรายละเอียดของขบวนการในระดับสูงขึ้นไปที่เป็นนายทุนใหญ่ในครั้งนี้และจะสามารถดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้ซึ่งเป็นการบูรณการกันระหว่างหน่วยงาน
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
และภายหลังที่ลงตรวจติดตามการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการๆครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพปัญหาข้อจำกัด
ของการปฏิบัติการดูแลพื้นที่ป่าไม้
ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้
หลายประเด็นเช่นข้อจำกัดของการเดินทางด้วยยานพาหนะของเจ้าหน้าที่
ที่ไม่ทัดเทียมของกลุ่มขบวนการ และอธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี
ได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา
ดำเนินการทำแผนงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรักษาป่า
ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่เป็นลักษณะดังกล่าวโดยเร่งด่วน
โดยได้สั่งการให้ดำเนินการใช้ ม.25 ตาม
พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507
รื้อทำลายถนนที่กลุ่มทุนตัดเข้าไปในเขตป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์
และมีแนวโน้มการขยายตัวออกเรื่อยๆซึ่งเป็นการสกัดกันไม่ให้เกิดการขยายตัวของการบุกรุกทำลายป่าในวงกว้างต่อไป
เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย
ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน กําหนดให้มีการดําเนินคดี
กับขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากที่เป็นขบวนการใหญ่โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง
คสช.ที่ 64,
66/2557 และคําสั่ง คสช.ที่ 13/2559
โดยเฉพาะในท้องที่ในเขตจังหวัดต่างในท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือที่ยังมีขบวนการดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่
โดยขบวนการมุ่งเน้นไปที่ไม้ชิงชันและประดู่ซึ่งปัจจุบันเป็นไม้ที่มีความต้องการจากตลาดต่างประเทศสูงรองจากไม้พะยูง
และมีราคาแพงในขณะนี้
เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน
พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อไป
ที่มาข้อมูล ..นายชีวะภาพ ชีวะธรรม. หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้
















ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น