วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2559

"ชุดพยัคฆ์ไพร" อึ้ง! ตรวจพบมะค่าโมงยักษ์อายุหลายร้อยปี มูลค่าหลายล้านบาท

พยัคฆ์ไพร อึ้งตรวจพบมะค่าโมงยักษ์อายุหลายร้อยปี มูลค่าหลายล้านบาท ถูกแปรรูปรอส่งลูกค้าไฮโซ กลางป่าต้นน้ำยม



ภายหลังจากอธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี ลงพื้นที่ติดตามแผนปฏิบัติการตัดทำลายเส้นทางขบวนการบุกรุกป่าและลักลอบทำไม้ข้ามชาติ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา  ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในป่าต้นน้ำแม่ยมเขตรอยต่อ จ.แพร่ และน่าน เพื่อปกป้องพื้นที่ป่าสมบูรณ์ต้นน้ำแม่ยมนับแสนไร่ จุดดังกล่าวถือว่าเป็นป่าไม้ชิงชันที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด แห่งหนึ่งของประเทศ
  อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ประสานสนธิกำลัง  นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าเปิดปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายต่อกลุ่มทุนและผู้มีอิทธิพลที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินและลักลอบทำไม้มีค่าหายากโดยเฉพาะไม้ชิงชัน อย่างต่อเนื่องในเขตป่าต้นน้ำแม่น้ำยม ท้องที่ อ.สอง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน และขบวนการจะใช้เส้นทางขนย้ายไม้ผ่านทางหมู่บ้านบ่อหอย ต.ยาบหัวนา อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งมีชาวบ้านในพื้นที่ร่วมขบวนการๆอย่างต่อเนื่อง





    นายอรรถพล เจริญชันษา จึงเสนอแนวทางเชิงรุกโดยใช้วิธีตัดทำลายเส้นทางที่ขบวนการใช้ขนย้ายไม้ที่ลักลอบทำออกจากป่านั้น จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2559 ความคืบหน้าล่าสุดของการ
ปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการตัดทำลายเส้นทางนำโดย นายมนตรี พลภักดี หัวหน้าชุดๆได้ดำเนินการตัดทำลายเส้นทางไปแล้วจำนวน 3จุดภายใต้สภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีฝนตกมาอย่างต่อเนื่องสร้างความยากลำบากต่อการทำงาน ชุดปฏิบัติการๆพร้อมชุดรักษาความปลอดภัยที่ต้องพักค้างแรมในป่าได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายเครื่องจักรไปยังจุดเส้นทางที่ 2 เพื่อเริ่มดำเนินการต่อเนื่องตามแผนการปฏิบัติการในเช้าวันที่ 17 ธ.ค. 2559  อีกเป็นเส้นทางที่ 2
       และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมด้วยนาย ศักดิ์รินทร์ ปัญญาใจ นำชุดปฏิบัติการๆตรวจค้นหาเส้นทางของขบวนการๆอีกอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเวลาตอนบ่ายของวันเดียวกันสามารถตรวจสอบพบเส้นทางของขบวนการเพิ่มอีกหนึ่งเส้นทาง โดยลักษณะของเส้นทางคล้ายกันคือรูปแบบมีการตัดเจาะตัดทางเข้าไปในป่าลึกเป็นอุโมงค์ซึ่งไม่สามารถตรวจพบได้ทางอากาศยานและการแปลภาพถ่ายทางอากาศ ด้านหน้าของเส้นทางมีการอำพรางไว้ด้วยการติดป้ายห้ามชาวบ้านที่จะเข้าไปเก็บหาของป่าเข้าไป มีการอำพรางให้เห็นเป็นเพียงคอกเลี้ยงวัวของชาวบ้านลักษณะแบบเดียวกับส้นทางจุดที่1 ที่เพิ่งตัดทำลายไป แต่เมื่อชุดปฏิบัติการขยายผลตรวจสอบลึกเข้าไปในเส้นทางที่แอบเจาะทางเป็นอุโมงค์เข้าไปในป่าลึกพบจุดการทำไม้ชิงชันพร้อมของกลางไม้ชิงชันเพิ่มจำนวน 2 จุด และภายหลังเมื่อขยายผลลึกเข้าไปในเส้นทางที่เป็นป่าที่ยังมีสภาพที่สมบูรณ์มาก คณะเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึงเมื่อตรวจพบจุดพักไม้ 2 จุดขนาดใหญ่ตรวจพบต้นมะค่าโมงยักษ์และต้นประดู่ขนาดใหญ่หลายคนโอบ ถูกแปรรูปในสภาพสดถูกตัดพันแปรรูปได้ไม่นานนักและถูกซุกซ่อนไว้ด้วยวัสดุปิดคลุมอย่างดีเพื่อรักษาเนื้อไม้และป้องกันการตรวจพบทางอากาศยาน  นาย ศักดิ์รินทร์   ปัญญาใจ ตรวจสอบขนาดและอายุคราวๆพบว่าเป็นต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่มากน่าจะมีขนาดหลายคนโอบน่าจะมีขนาดใหญ่กว่าต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกที่จังหวัดอุตรดิตถ์เสียอีก  อายุน่าจะ 300  ปีเศษ และตรวจสอบพบว่าส่วนท่อนโคนของลำต้นมะค่ายักษ์ได้ถูกขบวนการขนย้ายออกไปแล้ว




        ด้านนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ให้รายละเอียดว่าตั้งแต่รับราชการมา 30 ปี ไม่เคยพบต้นมะค่าโมงที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์ในป่าธรรมชาติแบบนี้ เพราะในช่วงเวลาหนึ่งก่อนปี 2525 ประเทศไทยเรายังให้มีการสัมปทานป่าไม้ทั่วประเทศ มีการทำไม้ออกและไม้มะค่าขนาดใหญ่ก็จะถูกตัดออกไปสำหรับนำไปทำเฟอร์นิเจอร์ของกลุ่มคนกระเป๋าหนักมีการประกวดประชันกันถ้าใครได้ครอบครองไม้หน้าใหญ่ บางรายเหมาซื้อไว้ประดับบารมีเป็นคันรถสิบล้อทำให้ต้นมะค่าโมงขนาดใหญ่ในป่าเมืองไทยสูญตาไป จะหาดูได้ก็ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วตามโรงแรม รีสอร์ท ตามวัดวาอาราม หรือตามบ้านผู้มีอันจะกิน บางแผ่นเมื่อขนย้ายถึงมือผู้บริโภค ราคาสูงลิบลิ่วถึงแผ่นละหลายแสนบาท เมื่อประมาณการแล้วต้นมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้มูลค่าเมื่อขบวนการๆขนส่งถึงปลายทางแล้วมูลค่าหลายล้านบาท และเมื่อเทียบเคียงอายุแล้วมะค่าโมงยักษ์ต้นนี้น่าจะงอกเกิดขึ้นตอนช่วง สมเด็จพระนเรศมหาราช ช่วงกรุงศรีอยุธยาเมื่อ 300 กว่าปี มาแล้วเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ซึ่งเส้นทางนี้ต้องดำเนินการตัดทำลายเพื่อสกัดกั้นขบวนการๆให้ได้ และสำหรับความคืบหน้าการขยายผลถึงขบวนการๆภายหลัง ชุดปฏิบัติการของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส)ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวบ้านในท้องที่เกิดเหตุ เมื่อวันแรกของการปฏิบัติการและสามารถขยายผลทราบเบาะแสรายละเอียดของขบวนการในระดับสูงขึ้นไปที่เป็นนายทุนใหญ่ในครั้งนี้และจะสามารถดำเนินคดีได้ในเร็ววันนี้ซึ่งเป็นการบูรณการกันระหว่างหน่วยงาน






   อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และภายหลังที่ลงตรวจติดตามการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการๆครั้งนี้ทำให้ทราบถึงสภาพปัญหาข้อจำกัด
ของการปฏิบัติการดูแลพื้นที่ป่าไม้ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ หลายประเด็นเช่นข้อจำกัดของการเดินทางด้วยยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ ที่ไม่ทัดเทียมของกลุ่มขบวนการ และอธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี ได้สั่งการให้นายอรรถพล เจริญชันษา ดำเนินการทำแผนงานเชิงรุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันรักษาป่า ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ที่เป็นลักษณะดังกล่าวโดยเร่งด่วน โดยได้สั่งการให้ดำเนินการใช้ ม.25 ตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 รื้อทำลายถนนที่กลุ่มทุนตัดเข้าไปในเขตป่าไม้ที่ยังสมบูรณ์ และมีแนวโน้มการขยายตัวออกเรื่อยๆซึ่งเป็นการสกัดกันไม่ให้เกิดการขยายตัวของการบุกรุกทำลายป่าในวงกว้างต่อไป      





    เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาท่ียั่งยืน กําหนดให้มีการดําเนินคดี กับขบวนการลักลอบทำไม้มีค่าหายากที่เป็นขบวนการใหญ่โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช.ที่ 64, 66/2557 และคําสั่ง คสช.ที่ 13/2559 โดยเฉพาะในท้องที่ในเขตจังหวัดต่างในท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือที่ยังมีขบวนการดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ โดยขบวนการมุ่งเน้นไปที่ไม้ชิงชันและประดู่ซึ่งปัจจุบันเป็นไม้ที่มีความต้องการจากตลาดต่างประเทศสูงรองจากไม้พะยูง และมีราคาแพงในขณะนี้
     
     เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ต่อไป
 

    ที่มาข้อมูล ..นายชีวะภาพ ชีวะธรรม. หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...