วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกับ บก.น.2. บุกทลายแหล่งขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติ

ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกับ บก.น.2. บุกทลายแหล่งขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติ พบเคยต้องคดีพัวพันหลายคดี สลดใจตรวจพบซากเต่ากระ สัตว์ป่าคุ้มครองถูกสต๊าฟเตรียมส่งออก
      

อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี ได้สั่งการให้นาย อรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เร่งรัดขยายผลติดตามขบวนลักลอบทำไม้มีค่าข้ามชาติให้ถึงที่สุด  โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวของทางราชการ  กลุ่มขบวนการก็จะอาศัยช่วงเวลานี้ ลักลอบขนย้ายไม้มีค่าจากแหล่งไม้ตามต่างจังหวัดขนย้ายเข้ามาซุกซ่อนในเขตปริมณฑลรอบ กทม. โดยช่วงเทศกาลวันหยุดยาวปีใหม่ ชุดปฎิบัติการฯสามารถจับกุมดำเนินคดีแหล่งรับซื้อ และผู้บงการใหญ่ได้หลายคดี
   วันนี้ (2 ม.ค. 60)  บริเวณโกดัง ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
    คณะ จนท.ประกอบด้วย จนท.ตร.ภายใต้การนำโดย พ.ต.อ.กฤษณะ คุณากร รอง ผบก.ตร.ภ.1
พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐพล ศุกระศร รอง ผบก.ภจว.นนทบุรี,  พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ  ผบก.สส.บก.น.2,  พ.ต.อ.ภานุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี ผกก.สส.1ภาค1,  และ จนท.ตร.กก.ภจว.นนทบุรี,
 นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าฯ,  นายชีวภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้,  นายภูษิต หิรัญพฤกษ์  ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคกลาง, หน่วย นปพ.กรมป่าไม้,
และ จนท.กรมอุทยานฯ, ปลัดอำเภอบางบัวทอง,  เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ปตอ.พัน.7
  เข้าตรวจค้นโกดังบริเวณต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตามหมายศาลจังหวัดนนทบุรี สรุปผลการตรวจค้นดังนี้




        1.ตรวจพบไม้แปรรูปแบบเหลี่ยมวางกองอยู่บริเวณภายใน ตรวจสอบเบื้องทราบว่าเป็นไม้ประดู่และไม้กระยาเลยชนิดอื่นๆประมาณ 500 ท่อน/แผ่น/เหลี่ยม ภายในโกดังยังพบไม้พะยูงและ ไม้ชิงชันแปรรูปเป็นท่อนและเหลี่ยมขนาดเล็กถึงปานกลางประมาณ 30 ท่อนเหลี่ยม เป็นไม้ชิงชันและพะยูงชิ้นขนาดเล็กอีกประมาณ 1,000 ชิ้น เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้มีค่าประมาณ 50 ชิ้นโดยคนเฝ้าดูแลสถานที่ได้ยื่นเอกสารบางส่วนเพื่อแสดงหลักฐานการได้มาและการครอบครองต่อ จนท.
       2.จากการตรวจค้นในบริเวณตัวอาคารยังพบซากสัตว์ป่าคุ้มครองประเภท 1 คือเต่ากระจำนวน 7 ตัว มูลค่าของกลางทั้งหมดที่พบประมาณ 20 ล้านบาท โดยผู้ดูแลไม่มีหลักฐานการครอบครอง
    เบื้องต้นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการอายัดไม้แปรรูปและสิ่งประดิษฐ์ของกลางที่เป็นไม้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบ แต่สำหรับการครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง (เต่ากระ) คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า




       จากการเปิดเผยของชุดปฏิบัติการๆให้ข้อมูลว่า ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของขบวนนี้มานานและบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการนี้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการไม้มีค่าข้ามชาติ และถูกจับกุมดำเนินคดีมาหลายครั้ง ซึ่งถ้าดูแล้วขบวนการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับคดีเก่าในท้องที่อื่นๆที่เคยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีมาตลอด แต่ที่น่าสลดใจคือตรวจพบซากเต่ากระ ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 2535 ถูกสต๊าฟแข็งไว้จำนวน 7ตัวเตรียมแพ็คส่งออก ไปตลาดต่างประเทศ ซึ่งซากเต่ากระดั่งกล่าวไม่สามารถครอบครองได้ตามกฎหมายและอยู่ในสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ตามบัญชี ของไซเตส




          อธิบดีกรมป่าไม้  ยังได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้นายอรรถพล เจริญชันษาและนายชีวะภาพ ชีวะธรรม    ประสานการปฏิบัติๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายผลให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด และให้ขยายผลให้ถึงผู้บงการให้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป.
  

ที่มา..นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ 


ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...