วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2560

“กองปราบปรามฯ ร่วมกับ พยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ขยายผลตรวจยึดสำนักร่างทรงบุกรุกป่ามูลค่าหลายสิบล้านบาท”

ขบวนการสาวประเภทสองตุ๋นเหยื่อทำบุญสูญเงิน 60 ล้านบาท ข้ามประเทศ ตรวจพบบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดิน สรุปแจ้งอีกหลายข้อกล่าวหา


ตามที่ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. ได้จับกุม นายอาทิตย์ตยา แสนยาธรรมโฆษ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดี "ฉ้อโกง" โดยจับกุมได้ที่สำนักทรงไม่มีชื่อ เลขที่ 134 ม.6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยมีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นร่างทรง "เจ้าหญิงเมืองแก้ว" ชักชวนเหยื่อซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีฐานะดีและพักอาศัยในต่างประเทศ เพื่อมาร่วมปฏิบัติธรรม โดยเริ่มต้นจากการสอนธรรมะผ่านไลน์กลุ่มหลังจากนั้น จะหลอกให้เดินทางปฏิบัติธรรม ที่สำนักทรงในประเทศไทย โดยผู้เสียหายให้การว่าผู้ต้องหาจะสอนธรรม ในทางที่ผิดทางพุทธศาสนา บางรายให้เลิกกับสามีโดยให้ฟ้องหย่าเพื่อให้ได้เงินมาทำบุญจำนวนมาก โดยสอนให้มีการบริจาคเงินจำนวนมากๆแม้เงินนั้นจะมาจากการทุจริตก็ตาม นอกจากนี้ระหว่างมาปฏิบัติธรรม ก็ห้ามไม่ให้ติดต่อญาติพี่น้องด้วย ระหว่างนี้ก็จะมีผู้ร่วมขบวนการคอยเล่าเรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ต่างๆของผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นเจ้าหญิงเมืองแก้วเพื่อโน้มน้าวชักจูงใจกลุ่มผู้เสียหายให้หลงเชื่อและให้ร่วมทำบุญกับร่างทรง ถ้ายิ่งทำมากก็ได้บุญมากและหากทำบุญสูงถึง 18ล้านบาท ก็จะได้บรรลุโสดาบัน






ซึ่งตรวจพบผู้เสียหายแล้วจำนวน 3 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท บางรายสูญเงินไปถึง 49 ล้านบาท นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประสานการปฏิบัติงาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบการยึดถือครอบครองที่ดินที่ใช้ก่อสร้างสำนักทรงดังกล่าว








และในวันนี้วันที่ 1 มีนาคม 2560 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป., นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร, พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, จำนวน 100 นาย ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่สำนักทรงดังกล่าว บนภูเขาในเขตป่าบริเวณท้องที่หมู่ 6 ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  พบมีการก่อสร้างหลายอาคารขนาดใหญ่มูลค่าหลายสิบล้านอยู่ในพื้นที่ และจากรังวัดตรวจสอบได้เนื้อที่ 7 ไร่เศษ และตรวจสอบพบพื้นที่ดังกล่าวได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตหวงห้ามที่ดิน เพื่อประโยชน์ในราชการทหาร พ.ศ. 2481 และพบว่าเป็นการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงเป็นความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่า ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และตรวจพบว่าเป็นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 และตาม มาตรา 9 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน และตรวจพบว่าการก่อสร้างสำนักทรงดั่งกล่าวไม่มีการขออนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ จึงพบว่าเป็นการกระทำผิดตาม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 อีกด้วย










คณะเจ้าหน้าที่ จึงร่วมกันนำเรื่องราวดังกล่าว ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมือง  จ.กาญจนบุรีต่อไป


ขอขอบคุณที่มา.. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...