การดำเนินการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมและรักษาป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
วันนี้ (16 พ.ค. 57) เวลา 9.00 น นายปฐม สาธิตานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร มาเป็นประธานพิธีเปิดการปล่อยแถวกองกำลังผสมเพื่อดำเนินการ ยึด รื้อถอน ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 พร้อมด้วย นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎ์ธานี) ผู้กล่าวรายงาน, นายธนิต สังขนิตย์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า, นายประจินต์ ธารศิริสิน นายอำเภอเมือง จ.ชุมพร, นายพิศิษฐ์ ฤทธิพิชัยสงคราม ปลัดอำเภอเมือง หน.ฝ่ายความมั่นคง, หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าในพื้นที่รับผิดชอบ, ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ตำรวจในพื้นที่, เจ้าหน้าที่ทหาร, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้ากรมป่าไม้, เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ, พร้อมผู้สื่อข่าวหลายสำนัก, ร่วมกันดำเนินการ ยึด รื้อถอน ตามมาตรา 25 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 แก้ไข หรือการทำการทำการอื่นใดแก่สิ่งที่เป็นอันตราย หรือสิ่งที่ทำให้เสื่อมภาพภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในท้องที่ ต.วังใหม่, ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร จำนวน 3 คดี 7 แปลง เนื้อที่จำนวน 140 ไร่ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวถูกกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปบุกรุกจ้างแรงงานต่างด้าวแผ้วถางป่า เพื่อปลูกยางพารา ปลูกมะละกอ และได้ขุดดินพื้นที่บริเวณรอบริมภูเขาเพื่อทำถนนเป็นเส้นทางให้รถวิ่งได้สะดวกในการขนอุปกรณ์ทำการเกษตรอย่างเปิดเผยโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ผอ.สำนักฯให้สัมภาษกับสื่อมวลชนต่อเรื่องที่เกิดขึ้นว่า “หลังจากนี้ไปในการจะมาดูแลป่า ต้องทำแบบบูรณาการ ต้องมาทำกันหลายๆ ฝ่ายไม่ว่าจะเป็น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. หรือชาวบ้านในพื้นที่ต้องมาร่วมมือดูแลป่าร่วมกันซึ่งแนวคิดนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี” ผอ.สำนักฯ กล่าว .
ปล.ขอฝากไปยังผู้ที่คิดจะบุกรุกทำลายป่าเพื่อทำการเกษตรอย่างที่เห็น เห็นมั้ยครับถ้าเป็นคดีความแล้วมันไม่คุ้มครับ นี่ที่เห็นแค่พืชผลที่ปลูกไว้ต้องถูกทำลาย เสียเวลาเปล่า เสียเงินด้วย แล้วถ้าหากตัวท่านถูกจับดำเนินคดีต้องติดคุก และจะต้องเจอคดีแพ่งด้วยเรียกค่าเสียหายในกรณีทำลายป่า ไร่ละ 150,000 บาท คิดดูให้ดีๆนะครับ
 |
| เพิ่มคำอธิบายภาพ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น