วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

ปลัดทส.ชี้จัดการป่าซับซ้อนยุ่งยาก วางโรดแมป ปราบ-ปฏิรูป-ฟื้นฟู



วันที่ 24 กรกฎาคม ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) พร้อมด้วยนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ นายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) และผศ.ขวัญชัย ดวงสถาพร อาจารย์ภาควิชาการจัดการป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างแนวทางการดำเนินงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในประเด็นยุทธศาสตร์การบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการที่ดินป่าไม้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชนเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก

นางมิ่งขวัญ กล่าวว่า ปัจจุบันการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้มีความยุ่งยากและซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยด้านการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม วิกฤติทางสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ทางการเมือง รวมทั้งความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินป่าไม้ จากปัญหาดังกล่าวทส. ได้กำหนดแนวทาง(โรดแมป)เพื่อสอดรับตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยกำหนดระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี และแผนระยะยาวใน 3 เรื่องหลัก คือ

1.การปราบปรามและจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับการบุกรุกพื้นที่ป่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานฯ ถือเป็นการดำเนินงานที่น่าพอใจ สามารถจับกุมผู้บุกรุกป่าได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากนี้จะบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้นด้วย

2.การปฏิรูปที่ดินป่า ทั้งป่าบก และป่าชายเลน ซึ่งขณะนี้ได้จัดทำแนวเขตป่า สำรวจพื้นที่ที่ถูกบุกรุก รวมทั้งการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยยึดตามมติ ค.ร.ม. 30 มิมิถุนายน 2541 กำหนดเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่อยู่ก่อนมติ ค.ร.ม. ต้องให้ความเป็นธรรม ให้อยู่อาศัยแบบมีเงื่อนไข โดยมีการใช้ประโยชน์บนพื้นฐานการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ดำเนินการควบคุมขอบเขตพื้นที่ไม่ไห้มีขยายเพิ่มเติมโดยเด็ดขาด ส่วนอีกกลุ่มที่อยู่หลังมติ ค.ร.ม. จะต้องดำเนินการสอบสวนพิสูจน์สิทธิ และดำเนินตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

3.การฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ จากข้อมูลในปี 2552 เหลือพื้นที่ที่คงสภาพเป็นป่าไม้ประมาณ 107.6 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 33.6 ของพื้นที่ประเทศไทยซึ่งมี 321 ล้านไร่ ตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติได้กำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าต้องมีร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ แต่ปัจจุบันพื้นที่ป่ายังมีน้อยกว่าเป้าหมาย ดังนั้นต้องหาแนวทางที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าอีก 20.7 ล้านไร่

ผศ.ขวัญชัย กล่าวว่า ร่างยุทธศาสตร์แนวทางการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาเรื่องการจัดการที่ดินป่าไม้ มีการร่วมประชุมระดมความคิดเพื่อร่างยุทธศาสตร์ฯ กับทั้ง 3 หน่วยงาน และรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนทั่วประเทศตั้งแต่ต้นปี 2556 จนกระทั่งได้ข้อสรุปมา 7 ยุทธศาสตร์ คือ

1.ป้องกันรักษาพื้นที่ป่าที่เหลือให้คงอยู่และยั่งยืน ด้วยการจำแนกที่ดินป่าไม้ให้เหมาะสมและจัดทำแนวเขตป่าไม้ให้ชัดเจอบนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของประชาชน

2.ฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมและป่าที่ถูกบุกรุกอย่างมีประสิทธิภาพ

3.แก้ไขปัญหาราษฎรในพื้นที่ป่าไม้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม จากข้อมูลพบว่ามีครัวเรือนชนบทไร้ที่ดินทำกิน 451,312 ครัวเรือน และมีการลงทะเบียนคนจนที่ต้องการที่ดินเพื่อประกอบอาชีพประมาณ 7 แสนราย

4.บูรณาการและส่งเสริมการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เช่น การสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่เข้มแข็ง การพัฒนาและส่งเสริมป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนให้สอดคล้องกับทรัพยากรท้องถิ่นและเกื้อกูลธรรมชาติ เป็นต้น

5.การเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตพื้นที่ป่าไม้ตามกฎหมาย ปัจจุบันการสนับสนุนเรื่องนี้ยังน้อยมาก ซึ่งเราอาจสนับสนุนหรือสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนนำที่ดินของตนเองมาปลูกป่าเศรษฐกิจและสามารถยึดเป็นอาชีพได้ หรือในเขตตัวเมือง เราควรสำรวจและจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนาในเขตเมืองและชุมชน

 6.ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้

7.ปรับปรุงและบูรณาการนโยบายและกฏหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ให้มีเอกภาพและประสิทธิภาพ โดยทั้ง 7 ยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะบรรลุผลสำเร็จได้จำเป็นต้องมีการถ่ายทอดแผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ และต้องได้รับการสนันสนุนจากหน่วยงานรัฐบาล ทั้งระดับชาติ ระดับกระทรวง กรม

ที่มา http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1406189022 กลับขึ้นด้านบน

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...