เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมป่าไม้ร่วมกับคณะวนศาสตร์ จัดการประชุมป่าไม้ ครั้งที่ 1 เรื่อง "ป่าไม้ไทย...ใครกำหนด" โดยนายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ ผู้ช่วย รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเปิดงาน ว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ฝากมาการดำเนินการในเรื่องทรัพยากรป่าไม้ของชาติในขณะนี้อยากให้หน่วยงานทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานน เร่งรัดการดำเนินการในเรื่องแก้ปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เพราะรัฐบาลนี้ก็จะหมดอายุลง อะไรติดขัดข้อกฎหมาย ก็ให้ทำเรื่องเสนอขึ้นมาเพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ การใช้ประโยชน์ในเขตอุทยานฯ หรือป่าสงวนฯ ได้ไม่ได้อย่างไรก็ให้เสนอขึ้นมา อะไรที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานที่ยุ่งยากต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นโอกาสที่ดีที่จะเสนอให้ใช้มาตรา 44
"ซึ่งในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ น่าจะมีข้อเสนอให้ใช้มาตรา 44 ในเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นเรื่องของอธิบดีแต่ละกรมที่จะเสนอขึ้นมา ยืนยันว่า การทำงานของฝ่ายการเมืองต้องทำทันที ไม่ได้มีวาระซ่อนเร้นใด ๆ เรื่องพื้นที่เป้าหมายการบุกรุก (AO) ก็ต้องมีการแยกแยะว่าคดีใดสิ้นสุด และมาตรา 44 ก็ต้องนำไปใช้ในส่วนนี้ ยืนยันว่า ในส่วนของประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบแต่ในส่วนของนายทุนต้องดำเนินการ"นายสุนันต์
ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า กรมป่าไม้จะเร่งจัดทำแผนจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน รวมทั้งผลักดันการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้ มีทั้งนักวิชาการ ภาคประชาชนเข้ามาร่วม โดยเป็นส่วนงานหนึ่งในกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งนี้ในส่วนของการเสนอใช้มาตรา 44 ในเรื่องทรัพยากรป่าไม้ นโยบายของรัฐบาลให้ลดพื้นที่ปลูกยางพารา ซึ่งกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ กำลังเตรียมจัดทำข้อเสนอให้รมว.ทรัพยากรฯ เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับคณะกรรมการกฤษฏีกาในเรื่องการนำไม้ออกจากป่า เพราะกฎหมายปัจจุบันไม่อนุญาตให้นำไม้ของกลางออกจากป่าและใช้ประโยชน์ได้
ทั้งนี้ในส่วนของแนวทางปฏิบัติสวนยางพาราที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 และ 2 จะต้องตัดฟันทิ้งทั้งหมดตามหลักวิชาการ ส่วนพื้นที่ราบไม่ใช่ลุ่มน้ำ ตัดฟันทันที 60 % และปลูกไม้เสริม ส่วนที่เหลืออีก 40 % จะค่อยทยอยตัด เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าดินพังทลาย ส่วนที่อายุ 1-2 ปี หรือยังกรีดน้ำยางไม่ได้จะต้องตัดฟันทิ้งทั้งหมด เป็นต้น โดยจะไม่ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่บุกรุกอีกท ซึ่งมีเป้าหมายการดำเนินการปี 2558 จำนวน 4 แสนไร่ และปี 2559 อีก 6 แสนไร่ รวม1 ล้านไร่ภายใน 2 ปี
นอกจากนั้นในส่วนของคดีการบุกรุกพื้นที่ของรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ ก็จะเสนอให้ใช้มาตรา 44 ในการดำเนินการเช่นกัน ทั้งนี้ในวันที่ 23 เม.ย.นี้จะมีการจัดประชุมหัวหน้าป่าสงวนฯ ทั่วประเทศเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้ และจะมีการมอบอุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย.
ที่มา...เดลินิวส์http://www.dailynews.co.th/politics/316236
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น