วันนี้
 (22 ก.ย. 58) ตัวแทนจากโครงการ  “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” 
นำทีมโดย นายชยศ สุวรรณพหู หัวหน้าทีม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการของ คุณเล็ก-ใหญ่ (ฝันดี-ฝันเด่น) สมาชิกอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในยามทุกข์ยากลำบาก ได้นำอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการนำไปใช้เพื่อปฏิบัติหน้าที่ เช่น เต็นท์นอน ผ้าสำหรับปูนอนในเต็นท์ ถุงเท้า เปลนอน หมวก และ ตะเกียงไฟฟ้าสนาม แก่ “ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าชุมพร หรือหน่วยเสือไฟชุมพร” สังกัดศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพร
ซึ่งในการนี้นายชัยสันติ์ ศรียาภัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพร และตัวแทนหน่วยเสือไฟเป็นผู้รับมอบ ได้มีการกล่าวขอบคุณกับตัวแทนจากโครงการ “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ว่า จะนำอุปกรณ์ที่ได้รับมอบในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดความคุ้มค่า ในภารกิจของชุดเสือไฟ เพื่อปกป้องทรัพยากรป่าไม้ให้มากที่สุด จริงๆแล้วอุปกรณ์เหล่านี้ทางหน่วยงานต้นสังกัดก็มีการจัดสรรงบประมาณให้ในการจัดซื้ออยู่แล้วทุกปี แต่บางปีมีภารกิจต่อเนื่องยาวนาน อุปกรณ์ที่ว่าก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ในบางจังหวะขาดแคลน ในนามของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพรต้องขอขอบคุณตัวแทนจากโครงการ “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ไว้ ณโอกาสนี้ และเห็นว่ายังมีอีกหลายหน่วยงานในพื้นที่ ที่ตัวแทนโครงการฯ จะนำไปมอบให้ สำหรับโครงการดังกล่าวที่ว่านี้ ถือว่ามีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก นายชัยสันติ์ กล่าว
นำทีมโดย นายชยศ สุวรรณพหู หัวหน้าทีม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการของ คุณเล็ก-ใหญ่ (ฝันดี-ฝันเด่น) สมาชิกอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือคนไทยด้วยกันในยามทุกข์ยากลำบาก ได้นำอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการนำไปใช้เพื่อปฏิบัติหน้าที่ เช่น เต็นท์นอน ผ้าสำหรับปูนอนในเต็นท์ ถุงเท้า เปลนอน หมวก และ ตะเกียงไฟฟ้าสนาม แก่ “ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่าชุมพร หรือหน่วยเสือไฟชุมพร” สังกัดศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพร
ซึ่งในการนี้นายชัยสันติ์ ศรียาภัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพร และตัวแทนหน่วยเสือไฟเป็นผู้รับมอบ ได้มีการกล่าวขอบคุณกับตัวแทนจากโครงการ “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ว่า จะนำอุปกรณ์ที่ได้รับมอบในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดความคุ้มค่า ในภารกิจของชุดเสือไฟ เพื่อปกป้องทรัพยากรป่าไม้ให้มากที่สุด จริงๆแล้วอุปกรณ์เหล่านี้ทางหน่วยงานต้นสังกัดก็มีการจัดสรรงบประมาณให้ในการจัดซื้ออยู่แล้วทุกปี แต่บางปีมีภารกิจต่อเนื่องยาวนาน อุปกรณ์ที่ว่าก็เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ ในบางจังหวะขาดแคลน ในนามของศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าชุมพรต้องขอขอบคุณตัวแทนจากโครงการ “ใจถึงใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน” ไว้ ณโอกาสนี้ และเห็นว่ายังมีอีกหลายหน่วยงานในพื้นที่ ที่ตัวแทนโครงการฯ จะนำไปมอบให้ สำหรับโครงการดังกล่าวที่ว่านี้ ถือว่ามีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมาก นายชัยสันติ์ กล่าว
 ซึ่งหน่วยเสือไฟนี้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี  พ.ศ.2541  ให้ประจำศูนย์ควบคุมไฟป่าทั้ง  4 ภาค (เหนือ กลาง อีสาน ใต้)   สังกัดส่วนจัดการไฟป่าและภัยธรรมชาติ  สำนักป้องกัน และปราบปราม  กรมป่าไม้  ในสมัยนั้น   หลังจากเกิดสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
 ในปี พ.ศ. 2540  และส่วนใหญ่มักเกิดในพื้นที่ป่าลึกยากลำบากแก่การเดินทางเข้าไปดับไฟด้วยวิธีการปกติ
ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจนี้ขึ้นมาเพื่อทำภารกิจดับไฟป่าในพื้นที่เหล่านี้โดยเฉพาะ
  ขีดความสามารถของหน่วยเสือไฟ
ซึ่งนอกจากการลำเลียงพลทางอากาศแล้ว หน่วยเสือไฟยังสามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ป่าได้ติดต่อกันถึง
3 วัน โดยที่ไม่ต้องส่งกำลังสนับสนุนอีกด้วย  
ชุดเสือไฟได้รับการฝึกให้มีสมรรถนะในการควบคุมไฟป่าทุกรูปแบบ ได้รับการฝึกทั้งองค์ความรู้ทั้งภาคทฤษฎี และทักษะปฏิบัติงานการดับไฟป่า ให้มีมาตรฐานความแข็งแกร่ง ทั้งทางร่างกายและด้านจิตใจ สามารถปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าให้สำเร็จได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ถึงแม้จะไม่ใช่หน่วยสู้รบแบบเดียวกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
ที่สังกัดอุทยานแห่งชาติ  และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
และฯลฯ   แต่การฝึกและภารกิจของพวกเขานั้นก็หนักและมีความสำคัญต่อป่าไม้ในประเทศไม่แพ้กัน   
หน่วยงานที่ควบคุมดูแลรับผิดชอบหน่วยเสือไฟหรือที่หน่วยเสือไฟสังกัดอยู่นั้นคือ “ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าจังหวัด” ซึ่งมีด้วยกัน 15 จังหวัด หรือ 15 ศูนย์ฯ ๆ ละ 15 นาย สังกัดส่วนควบคุมไฟป่า สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในปัจจุบัน.



















 
 
 
 
