วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ทส.หนาว แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 ให้เพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่

ทส.หนาว แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 ให้เพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่ หากไม่สำเร็จเจอถูกตัดงบ 3-4 หมื่นล้าน พร้อมโยกให้หน่วยงานอื่นดูแล "รองปลัด ทส."โอดตายแล้วเกิดใหม่สิบชาติถึงสำเร็จ


ทส.หนาว แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับ 12 ให้เพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่ หากไม่สำเร็จเจอถูกตัดงบ 3-4 หมื่นล้าน พร้อมโยกให้หน่วยงานอื่นดูแล "รองปลัด ทส."โอดตายแล้วเกิดใหม่สิบชาติถึงสำเร็จ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ แถลงถึงการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติและพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ได้มีการสรุปพื้นที่ป่าไม้ของประเทศไทยว่า มีพื้นที่ 102 ล้านไร่ หรือ 32  % จากพื้นที่ประเทศไทยทั้งหมด 321 ล้านไร่ ขณะที่พื้นที่ป่าไม้ที่ประเทศต้องการคือต้องมีถึง 40 % หรือ 128 ล้านไร่ เพื่อให้เกิดระบบนิเวศที่ดี ดังนั้นยังขาดอยู่ 26 ล้านไร่ ภารกิจของกระทรวง ใน 10 ปีนี้ ก็คือการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 26 ล้านไร่ โดยถูกบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งเริ่มประกาศใช้ในปี 2560 และจะมีการประเมินตัวชี้วัดคุณภาพการทำงาน (เคพีไอ) ของกระทรวงทรัพยากรฯ ในการดูแลพื้นที่ป่าของประเทศ ถ้าไม่สำเร็จกระทรวงจะถูกตัดงบประมาณปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท และอาจจะมีการเปลี่ยนหน่วยงานในการดูแลรักษาป่าของประเทศใหม่ ยอมรับว่าการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 26 ล้านไร่ ภายในระยะเวลา 10 ปี เป็นไปได้ค่อนข้างยาก ต้องตายแล้วเกิดใหม่ประมาณ 10 ชาติ จึงจะสำเร็จ เนื่องจากการเพิ่มพื้นที่ป่าทั้งป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ ไม่ใช่เรื่องง่าย ติดทั้งปัญหามวลชนในพื้นทีที่ไม่เห็นด้วย และการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ล่าช้า ต่างคนต่างทำนายสุพจน์ กล่าว   

ด้านนายอดิศร นุชดำรง รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า คดีการบุกรุกอุทยานฯ สิรินาถ ขณะนี้ได้รับสารบบที่ดินจากสำนักงานที่ดิน จ.ภูเก็ต สาขาถลางแล้ว จำนวน 489 แปลง เนื้อที่กว่า 2,300 ไร่ และยังไม่ได้รับสารบบที่ดินจำนวน 216 แปลง เนื้อที่กว่า 1,100 ไร่ ขณะนี้กำลังเร่งขอสารบบที่ดิน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลความชอบด้วยกฎหมายของการออกเอกสารสิทธิ์ คาดว่าจะมีการทยอยเพิกถอน นอกจากนี้จะมีการเตรียมการรื้อถอนคดีการบุกรุกอุทยานฯ ทับลาน โดยมีการดำเนินคดีทั้งหมด 455 คดี  มีการออกสั่งทางปกครองตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุทยานฯ 188 คดี ดำเนินการรื้อถอนแล้ว 101 คดี เช่น บ้านผางามรีสอร์ท อยู่ระหว่างการรื้อถอน  20 คดี บ้านทะเลหมอกรีสอร์ท ซึ่งเจ้าของยอมรื้อถอนเอง ขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่า 90 % แล้ว และอยู่ระหว่างดำเนินการ ยังไม่ได้รื้อถอน  อีก 67 คดี นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบกรณีการบุกรุกอุทยานฯ บูโด-สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ขณะนี้ได้มีการตรวจพิสูจน์การครอบครองที่ดินของประชาชนในพื้นที่กว่า 1.9 หมื่นราย เนื้อที่กว่า 1 แสนไร่ เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุก เป็นต้น 

นางเปรมพิมล พิมพ์พันธุ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเชิงพื้นที่ หรือ เอโอ ของกรมป่าไม้ ว่า ข้อมูลล่าสุดในวันที่ 29 ก.ย. พื้นที่เอโอ 1 คือพื้นที่ที่คดีสิ้นสุดแล้ว โดยตั้งเป้าหมายในปี 58 จำนวน 2 หมื่นไร่ ดำเนินการไปแล้วกว่า 1.7 หมื่นไร่ คิดเป็นร้อยละ 88.66 พื้นที่เอโอ 2 คือพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ตั้งเป้าหมาย 5 หมื่นไร่ ดำเนินการแล้ว 3.5 หมื่นไร่ คิดเป็นร้อยละ 70.45 พื้นที่เอโอ 3 คือพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิ ตั้งเป้าหมาย 5.05 แสนไร่ ดำเนินการแล้ว 1.72 แสนไร่ คิดเป็นร้อยละ 34.24 ไร่ ส่วนพื้นที่เอโอ 4 มีพื้นที่ 33.2 ล้านไร่คงเดิม ส่วนผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการรื้อถอนสวนยางพารา กรมป่าไม้ได้ตั้งเป้าในปี 58 จำนวน 4 แสนไร่ ดำเนินการไปได้เพียง 9.3 หมื่นไร่คิดเป็นร้อยละ 23.25 เพราะมีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งงบประมาณ บุคลากร ซึ่งต้องหาวิธีการปรับแผนในการดำเนินการต่อไป.

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...