วันนี้ (12 พ.ค. 59 ) เวลา 09.30 น. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ลงพื้นที่ภาคใต้ ในพื้น
อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อตรวจสอบพื้นที่หลังจากหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) ได้ทำการ ตรวจยึด จับกุมนายทุนบุกรุกพื้นที่เขตอุทยานเเห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
และเเจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน พบการกระทำผิดหลายบริษัท ที่ได้เข้ามายึดถือครอบครองทำนากุ้ง
บนเนื้อที่เกือบ 3,000 ไร่ ไว้เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ตามภารกิจเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าอนุรักษ์ ของ
กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า เเละพันธุ์พืช นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ จึงนำพยานหลักฐาน และ ผู้ต้องหา นำส่งสถานีตำรวจภูธรบ้านวิสัยเหนือ
ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
วันนี้อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ลงตรวจสอบพื้นที่ด้วยตนเอง พร้อมด้วย นายเฉลิมชัย ปาปะทา รักษาการรองอธิบดีกรมอุทยานฯ, นายไพศาล สถิตวิบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี), ผู้อำนวยสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 (สุราษฎร์ธานี), และผู้อำนวยการส่วนฯ, หัวหน้าหน่วยงานภาคสนามต่างๆ, ร่วมประชุม และรับฟังการรายงานชี้แจงจากนายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะชุมพร และจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการเศษฯ "พญาเสือ" ถึงเรื่องการปฏิบัติการตรวจยึดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หมู่ที่ 5 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร และหลังจากนั้น อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้กล่าวในที่ประชุมเพื่อชี้แจงให้หน่วยงานในพื้นที่รับทราบถึงแนวคิด และนโยบายในการจัดตั้งชุดฉก.ปฏิบัติการพิเศษฯ พญาเสือ และให้ข้อคิด หลักการทำงาน แก่ ผอ.สำนักฯ ผอ.ส่วนฯ หัวหน้าหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่
“ขอให้ทุกท่าน คิดใหม่ ทำใหม่ ได้เลย
สำหรับใครที่ทำตัวปั่นจักรยานปล่อยมือ เกียร์ว่าง เพราะหลังจากนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงแน่ จะต้องมีการโยกย้ายเปลี่ยนตัวอย่างแน่นอน
แต่จะเป็นใครบ้างนั้นผมยังไม่ระบุว่าตัวว่าเป็นใคร และไม่ได้เจาะจงว่าเป็น
ผอ.สำนักฯโน้น ผอ.ส่วนฯนี้ และหัวหน้าหน่วยงานฯนั้น ตามที่เป็นข่าวไปนั้น อาจจะมีบ้างแต่ไม่ใช่ทั้งหมด
และตอนนี้อยู่ในระหว่างการร่างจัดทำคำสั่งอยู่
และผมขอบอกทุกท่านในที่นี้ไว้เลยว่า ที่ผ่านมานั้นผมไม่ทราบว่าท่านมากันอย่างไร
แต่ละเดือนส่งยังไงเท่าไหร่ มีการซื้อขายตำแหน่งกันเท่าไหร่ ซื้อขั้นเงินเดือนกันเท่าไหร่ นั้นผมไม่รู้ แต่มายุคผม ไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ไม่มีขายขั้นเงินเดือน และกุญแจรถไม่มีขายแน่นอน
ถ้าใครรู้ หรือทราบ และมีหลักฐานว่าผมทำอย่างที่กล่าวมา
ผมท้าให้ท่านเอาผมไปประจานได้เลย” อธิบดีกรมอุทยาน ฯ กล่าว
และอธิบดีกรมอุทยาน ฯ ยังได้ให้ข้อคิดให้กับหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามด้วยว่าหากมีปัญหาอะไรในการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายป่าไม้ กฎหมายอุทยานฯ ที่พวกท่านไม่สามารถดำเนินการเองได้ ก็ขอให้แจ้งชุดพญาเสือได้ทันที แต่หากชุดพญาเสือเข้าในพื้นที่ใดและท่านไม่ได้แจ้ง หรือไม่ทราบ ท่านก็ต้องพิจารณาตัวเองได้เลย ถือว่าให้โอกาสในการทำหน้าที่แล้ว และอธิบดีกรมอุทยานฯ ยังได้ฝากข้อคิดถึงเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือ การทำงานปราบปรามหรืองานใดๆ ให้นึกอยู่เสมอว่า เซฟตี้เฟิร์สท์ “Safety First” ต้องมาอันดับแรก ก็คือความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกคน “เราทำงานสำเร็จยังไง ถ้าลูกน้องบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตไปหนึ่งคน ภารกิจเหล่านั้นถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ผมถืออย่างนั้น ถึงจะจับผู้ต้องหาได้ไปเป็นร้อยเป็นพัน แต่ลูกน้องบาดเจ็บล้มตาย ก็ถือว่างานนั้นล้มเหลว ก็ขอฝากพวกเราทุกคนด้วย” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้ายในห้องประชุม
หลังจากนั้น เวลา 10.30 น. อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ขึ้น ฮ.กระทรวงทรัพยากรฯ
ไปสำรวจพื้นที่ที่ได้ตรวจยึด จับกุม และชุดกำลังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน
ทั้ง กำลังทหารจาก มทบ.44 ชุมพร ตำรวจ ตชด. เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ
เจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเลฯ รวมกว่า 50 นาย ได้เดินทางเข้าพื้นที่ ที่ถูกบุกรุก
ซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรไปประมาณ 5 กม.
เมื่อเข้าถึงพื้นที่อธิบดีกรมอุทยานฯ
เดินสำรวจพื้นที่ และตรวจสอบในแผนที่ บริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจยึด และรับฟังคำชี้แจงจากนายชัยวัฒน์ หัวหน้าชุดพญาเสือ ซึ่งเป็นชุดตรวจยึด
จับกุม และจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร
หลังจากนั้นอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเรื่องการปฏิบัติการ
ตรวจยึดจับกุมในพื้นที่ดังกล่าว
ต่อจากนั้นได้บินสำรวจพื้นที่โดย ฮ.กระทรวงทรัพยากรฯ
พร้อมให้สื่อมวลชนร่วมบินสำรวจดูพื้นที่ดังกล่าวด้วย
สำหรับการปฏิบัติการของหน่วย ฉก. พญาเสือ ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในครั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พื้นที่ป่าอนุรักษ์กลับคืนมา เนื้อที่ประมาณ ๒,๗๐๓ กว่า ไร่ คิดเป็นเงินค่าเสียหายของรัฐ จำนวนเกือบ 320 ล้านบาท
สำหรับการปฏิบัติการของหน่วย ฉก. พญาเสือ ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ในครั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พื้นที่ป่าอนุรักษ์กลับคืนมา เนื้อที่ประมาณ ๒,๗๐๓ กว่า ไร่ คิดเป็นเงินค่าเสียหายของรัฐ จำนวนเกือบ 320 ล้านบาท
สำหรับพื้นที่ ๆ ได้ตรวจยึดคืนมาในครั้งนี้นั้น หลังจากนี้จะเร่งทำการฟื้นฟูระบบนิเวศให้กลับคืนมาโดยเร็วต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น