วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559 เวลา
16.18 น. เว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร โพสข้อความที่เกี่ยวกับ "สถานะและข้อเสนอถึงกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ" ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้
"ภาพเปรียบเทียบป่าในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กับกรมป่าไม้ ในปัจจุบัน
กรมอุทยานมีความพร้อมในการดูแลพื้นที่มากกว่า ทำงานเพิ่มประสิทธิภาพงานศึกษาวิจัย
และลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ไปตามปกติ กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง
มีป่าชายเลนดูแลบางส่วนก็ทำไป
ที่น่าเป็นห่วงคือกรมป่าไม้
ทำงานด้วยปัจจัย และสถานการณ์ขนาดปัจจุบันไม่ไหวครับ ดูแลป่า ราวๆ 30 ล้านไร่ที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ไม่ไหวหรอก ป่าหมดไปปีละเกือบล้านไร่
เป็นป่าสงวนที่กรมดูแลเสียมาก
ภาพเปรียบเทียบป่าในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กับกรมป่าไม้ ในปัจจุบัน
กรมอุทยานแห่งชาติ
สถานะการป้องกันรักษาป่า
- หน่วยพิทักษ์ป่าครอบคลุมพื้นที่ดูแล
มีเจ้าหน้าที่หน่วยละประมาณ 10 คน
มีนโยบายให้ลาดตระเวนดูแลจริง
- มีหัวหน้าอุทยานฯ รับผิดชอบงานเดียว
มีแผนที่ข้อมูลพร้อมสาธารณะชน
เข้าถึงข้อมูล รู้ขอบเขต
ร่วมสอดส่องดูแล
ตรวจสอบได้
- มีพาหนะ เสบียง น้ำมัน อาวุธ
พอสมควรกับการปฏิบัติงาน
โอกาส
เหลือป่าแบบนี้ 70 ล้านไร่ทั่วประเทศ
น่าจะพอไหว ควรเพิ่มงานดูแลสัตว์ป่า
และเพิ่มงานวิชาการ
ข้อเสนอ
- ใช้มติ ครม. ใหม่
หาข้อตกลงการใช้พื้นที่
ไม่ขยายออกและมีส่วนร่วมกับชุมชน
ตั้งกติกาการใช้พื้นที่ร่วมกัน
และมีโครงการเสริมป่าใช้สอย
เกษตรผสมผสาน ให้เต็มพื้นที่ในระยะยาว
อยู่ร่วมกันระหว่างกรมอุทยาน
และชุมชนอย่างปกติสุข
................................................................................................................................
กรมป่าไม้
สถานะการป้องกันรักษาป่า
- หน่วยป้องกันรักษาป่ามีแห่งเดียว
ไม่ค่อยมีเจ้าหน้าที่หน่วย
ไม่มีการลาดตระเวนดูแลจริง
- มีหน่วยรับผิดชอบงาน แต่มีงานอื่นๆ
มากมาย ขาดแผนที่ข้อมูล สาธารณะชนเข้า
ไม่ถึงข้อมูล ไม่รู้ขอบเขตแน่นอน
ใครก็ไม่สามารถร่วมสอดส่องดูแล
- ขาดพาหะนะ เสบียง น้ำมัน อาวุธ
ทุกอย่าง ป่าแตกเป็นหย่อม
ดูแลแทบไม่ได้เยอะแยะไปหมด
ข้อเสนอ
- ใช้มติ ครม.ใหม่
ข้อตกลงการใช้พื้นที่
ขยายออก มีส่วนร่วมกับชุมชน ตั้งกติกา
และมีโครงการเสริมป่าใช้สอย และป่า
เศรษฐกิจให้เต็มพื้นที่ในระยะยาว
โดยใช้โมเดลธนาคารต้นไม้และ
หรือพันธบัตรป่าไม้
ส่งเสริมสวนป่าเอกชน
ป่าที่เหลือต้องเพิ่มประสิทธิภาพการ
ป้องกันควบคู่ไปกับการหนุนเสริมการ
จัดการป่าชุมชนอยู่ร่วมกันระหว่าง
ป่าสงวนกับป่าชุมชนอย่างปกติสุข
พอเห็นเขาหัวโล้น มีคนหวังดี คิดทันที
"ต้องปลูกป่า"
ปลูกไปเถอะครับ
แต่หากยังแก้ระบบดูแลป้องกันไม่ได้ ปลูกไปไม่ทันกับที่หมดไปทุกวัน
งานที่รัฐบาลต้องเร่งทำคือหยุดการรุกป่า โดยการ
"เพิ่มประสิทธิภาพหน่วยป้องกันรักษาป่าของกรมป่าไม้"
ไม่ใช่ว่าปลูกป่าไม่ดี
แต่มันต้องหยุดการลุกลามก่อน เหมือนคนผมร่วง ก่อนปลูกผมก็น่าจะหาสาเหตุผมร่วง
และป้องกันก่อน จากนั้นจะปลูกผม ปลูกป่าก็ว่าไป รัฐบาล เหลือเวลาไม่มาก
ถ้าจะต้องเลือกปฏิรูปอะไรสักอย่างในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ผมเสนอให้ทำเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สุด สำคัญสุด ส่วนกรมอื่นๆ
พอทำงานปกติไปได้แล้ว ค่อยๆ ว่ากัน
ผมเชื่อว่าผู้บริหารกรมป่าไม้รุ่นปัจจุบันพร้อมทำงาน
เข้าใจปัญหา และน่าจะวางระบบกันใหม่ได้
อย่าเสียเวลาครับ ทำเรื่องนี้เสียที
เชื่อผมเถอะ"
ทั้งหมดนี้เป็นข้อความจาก เว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ซึ่งเท่าที่ได้อ่านดู ก็มีอยู่หลายอย่างที่น่าคิด และนำมาพิจารณา สำหรับรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบดังกล่าว.
ทั้งหมดนี้เป็นข้อความจาก เว็บไซต์มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ซึ่งเท่าที่ได้อ่านดู ก็มีอยู่หลายอย่างที่น่าคิด และนำมาพิจารณา สำหรับรัฐบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบดังกล่าว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น