วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2559

'ชุดพยัคฆ์ไพร' ตรวจเข้ม 970 รีสอร์ทในเขตป่าไม้ นำร่อง จ.เพชรบูรณ์

อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี สั่งนายอรรถพล เจริญชันษา และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม
นำชุดพยัคฆ์ไพรลงตรวจสอบรีสอร์ทหรู  ตามแผนๆตรวจเข้ม 970 รีสอร์ทในเขตป่าไม้ เป้าหมายแรก พื้นที่นำร่องเขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายหลังได้รับรายงานตรวจพบ โรงแรม รีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศ 970 แห่งทั่วประเทศในเขตป่าไม้  สั่งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ความชัดเจน ต่อการครอบที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆ ในความรับผิดชอบของ กรมป่าไม้ ภายหลังได้รับการรายงานจากชุดพยัคฆ์ไพร  ที่ตรวจพบแล้ว มีทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ในส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินก็น่าจะออกมาด้วยความคลาดเคลื่อน และไม่ชอบด้วยกฎหมายจำนวนมาก




   เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน  2559 นายชลธิศ สุรัสวดี   อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า ได้เรียกประชุมผู้อำนวยการส่วนป้องกันและควบคุมไฟป่า จากทุกสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ทั่วประเทศ เพื่อสั่งการให้ดำเนินการตรวจสอบ โรงแรม รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศของกลุ่มทุนในเขตป่าไม้ทั่วประเทศ ตามที่ได้รับการรายงาน จำนวน 970 แห่งโดยกำหนดแนวทาง และขั้นตอนการดำเนินให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันโดยให้แล้วเสร็จภายใน วันที่ 30 กันยายน 2559 และอธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้
ให้นายอรรพล เจริญชันษา และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม นำชุดปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร
ประสานการปฎิบัติร่วมกับ พอ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป 4.กอ.กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้าตรวจเข้มพื้นแรกคือในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาโปกหล่น อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยข้อมูลจากการอ่านแปลภาพถ่ายพบ 58 แห่งที่ต้องเข้าดำเนินการตรวจสอบ
โดยจะเข้าดำเนินการในวันที่ 25 มิถุนายน 2559 ให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม   ซึ่งได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน กําหนดให้มีการดําเนินคดี กับผู้บุกรุกป่า รายที่เป็นนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช.ที่ 64 และ 66/2557 และ  คําสั่ง คสช.ที่ 13/2559 โดยเฉพาะในท้องที่ที่เป็นเขตป่าต้นน้ำลำธารสายหลักของประเทศประกอบด้วย พื้นที่ป่าต้นน้ำปิง วัง ยม น่าน และ แม่น้ำป่าสัก  อันสืบเนื่องจากกรณีมีการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตจังหวัดต่างในหลายท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือ ที่ยังคงมีความรุนแรงส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมบนพื้นที่ ป่าต้นน้ำลำธาร ในเขตภูเขาสูงอย่างรุนแรง




นายชีวะภาพ ชีวะธรรม เปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่ ตรวจสอบพบเบื้องต้น พบว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ทโรงแรมหรูบ้านพักตากอากาศหรู จำนวนมากที่ตรวจสอบพบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งประเภทที่เป็นการครอบครองที่ดินแบบมือเปล่า และประเภทมีเอกสารสิทธิที่ดินซึ่งเมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น่าจะเป็นเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเป็นการออกโดยการเดินสำรวจโดยไม่ได้มีการแจ้งครอบครอง สค1ตามระเบียบ ซึ่งไม่สามารถเดินสำรวจได้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆและเขตป่าไม้ถาวร และจะต้องมีการขยายผลดำเนินตรวจสอบให้ชัดเจน และเสนอให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของการครอบครองแบบมือเปล่าโดยไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่อาศัยได้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตรวจพบแล้วหลายรีสอร์ท และยังตรวจสอบพบว่ามีหลายจุด ที่เพิ่งก่อสร้างใหม่ ภายหลังที่มีคำสั่งที่ 64/2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ซึ่งเป็นการบุกรุกใหม่ต้องดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มนี้เป็นอันดับต้นๆ และจะขยายผลให้ถึงผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป.

  
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...