วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

'พยัคฆ์ไพร' รับคำสั่ง 'อธิบดีกรมป่าไม้' ตรวจสอบรีสอร์ทหรูในเขต จ.เชียงใหม่ กว่า 80 รีสอร์ท

อธิบดีกรมป่าไม้ นายชลธิศ สุรัสวดี สั่งพยัคฆ์ไพรลงตรวจสอบรีสอร์ทหรูในเขตอำเภอสะเมิงจังหวัดเชียงใหม่ สั่งให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ได้ความชัดเจน ต่อการครอบที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆในความรับผิดชอบของ กรมป่าไม้ ภายหลังได้รับการรายงานจากชุดพยัคฆ์ไพร ว่าตรวจพบรีสอร์ทในเขตป่า ที่อยู่ในความรับผิดชอบ มากกว่า 900 รีสอร์ททั่วประเทศและเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 80 รีสอร์ท ที่ตรวจพบแล้ว มีทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ในส่วนที่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดินก็น่าจะออกมาคลาดเคลื่อนและไม่ชอบด้วยกฎหมาย
   

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน   2559  นายชลธิศ สุรัสวดี  อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมนายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า  เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
เพื่ออำนวยการปฎิบัติการของชุด ปฎิบัติการพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกยึด
ถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อนำไปสร้างรีสอร์ท โรงแรม บ้านพักตากอากาศ
ที่ผิดกฎหมาย ในเขตท้องที่ อ.สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่




 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  ได้มีนโยบายในการบังคับใช้กฎหมาย ภายใต้แผนพลิกฟื้นผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน กําหนดให้มีการดําเนินคดี กับผู้บุกรุกป่า รายที่เป็นนายทุน หรือผู้มีอิทธิพล โดยใช้แนวทางการปฏิบัติตามคําสั่ง คสช.ที่ 64 และ 66/2557  และ  คําสั่ง คสช.ที่ 13/2559  โดยเฉพาะในท้องที่ที่เป็นเขตป่าต้นน้ำลำธารสายหลักของประเทศประกอบด้วย พื้นที่ป่าต้นน้ำปิง วัง ยม น่าน และ แม่น้ำป่าสักอันสืบเนื่องจากกรณีกาบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตจังหวัดต่างในท้องที่เขตจังหวัดทางภาคเหนือ ที่ยังคงมีความรุนแรงส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมบนพื้นที่ ป่าต้นน้ำลำธาร ในเขตภูเขาสูงอย่างรุนแรง

และนายชีวะภาพ ชีวะธรรม  หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้   ได้ประสานการปฎิบัติร่วมกับ   พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ผู้เชี่ยวชาญปฏิบัติการ ศปป. 4 กอ.รมน.  ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรที่1(เชียงใหม่)   ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ,ฝ่ายตำรวจและ   หน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ของกรมป่าไม้   เดินทางลงพื้นที่เขตอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่    ร่วมกันเข้าตรวจสอบการบุกรุกครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆ
     


จากการลงพื้นที่ ตรวจสอบพบเบื้องต้น พบว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ท ,โรงแรมหรู,บ้านพักตากอากาศหรู จำนวนมากที่ตรวจสอบพบอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีทั้งประเภทที่เป็นการครอบครองที่ดินแบบมือเปล่า และประเภทมีเอกสารสิทธิที่ดินซึ่งเมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า น่าจะเป็นเอกสารสิทธิที่ดิน ที่ออกมาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะเป็นการออกโดยการเดินสำรวจโดยไม่ได้มีการแจ้งครอบครอง สค1ตามระเบียบ ซึ่งไม่สามารถเดินสำรวจได้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆและเขตป่าไม้ถาวร และจะต้องมีการขยายผลดำเนินตรวจสอบให้ชัดเจน และเสนอให้กรมที่ดิน ดำเนินการเพิกถอนตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของการครอบครองแบบมือเปล่าโดยไม่มีคุณสมบัติที่จะอยู่อาศัยได้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งตรวจพบแล้วหลายรีสอร์ท




และ อธิบดีกรมป่าไม้  ยังได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้นายอรรถพล เจริญชันษาและนายชีวะภาพ ชีวะธรรม    ประสานการปฎิบัติ  ร่วมกับ พอ.พงษ์เพชร เกษสุภะ ศปป4.กอ.กอ.รมน.  และ  หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขยายผลการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้เพื่อนำพื้นที่ไปทำรีสอร์ทอย่างผิดกฎหมายให้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาด และให้ขยายผลให้ถึงผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางตามแผนงาน พลิกฝืนพื้นป่า สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป.

  
ที่มาของข้อมูล : นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ 

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...