ปลูกป่าประชารัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 64 พรรษา"

วันที่ 23 กรกฎาคม 59 เวลา 9.30 น. กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดกิจกรรมปลูกป่า

ประชารัฐ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ "สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 64 พรรษา" (28 กรกฎาคม 2559) ณ พื้นที่ปลูกป่า ตั้งอยู่ ม. 2 ต.ทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร

พื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร 

 โดยมีพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสมดี คชายั่งยืน ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายเฉลิมชัย ปาปะทา รักษาราชการแทนรองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ นายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้ตรวจราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ นายไพศาล สถิตย์วิบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) นายรักพงษ์ บุญย่อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ส่วนราชการต่างๆ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในท้องที่จังหวัดชุมพร ร่วมกันปลูกป่าชายเลน ฟื้นฟูพื้นที่ที่ตรวจยึดคืนเพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับป่าชายเลน และระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง

  

พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า "วันนี้เรามีพื้นที่ป่าของประเทศ ๓๒๐ ล้านไร่ มีป่าสมบูรณ์ ๑๐๒.๔ ล้านไร่ คิดเป็น ๓๒ เปอร์เซ็นต์ เป้าหมายของรัฐบาลกำหนดว่าจะต้องมีพื้นที่ป่าประมาณ ๔๐ เปอร์เซ็นต์ คือ ๑๒๐ ล้านไร่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจึงนำนโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาสู่การปฏิบัติ กำหนดว่าในระยะ ๒๐ ปี คาดว่าในปี ๒๕๗๙ จะมีพื้นที่ป่าร้อยละ ๔๐ วันนี้เหลืออีก ๒๕ ล้านไร่ ต้องทำทั้งเรื่องของการปลูกป่าทั้งป่าชายเลนและป่าบก เรามีการดำเนินการยึดคืนพื้นที่เพื่อมาฟื้นฟูและป้องกันการบุกรุกซ้ำ ส่งเสริมอุตสาหกรรมป่าไม้จากป่าปลูก ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนปลูกไม้มีค่าในพื้นที่ของตัวเอง และเพิ่มพื้นที่ป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว และเราจะดำเนินการส่งเสริมให้ทุกชุมชนมีพื้นที่สีเขียว โดยคาดว่าใน ๒๐ ปีข้างหน้า ประชาชนจะอยู่ในประเทศที่มีป่าสมบูรณ์ ร้อยละ ๔๐ นี่คือ สิ่งที่เราผู้ใหญ่ในวันนี้ วางให้กับเด็กในอนาคตอีก ๒๐ ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติ

การจัดกิจกรรมโครงการปลูกป่าประชารัฐฯ ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ราษฎรและชุมชนในท้องที่จังหวัดชุมพรได้ร่วมกันปลูกป่าในชุมชนของตนเอง ทุกชุมชนมีจิตสำนึก อนุรักษ์ หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนของตน เป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนและเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ประเทศตามนโยบายรัฐบาล โดยพื้นที่ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เป็นพื้นที่ที่ยึดคืนจากการบุกรุกของบริษัทเอกชนเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ จำนวน ๒,๗๐๓.๕๕ ไร่ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด"  พล.อ.สุรศักดิ์  กล่าว

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สืบเนื่องจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ได้ตรวจยึดพื้นที่คืนจากบริษัทเอกชน ที่บุกรุกพื้นที่จำนวน ๒,๗๐๓.๕๕ ไร่ เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด ปัจจุบันสภาพพื้นที่โดยทั่วไปเป็นบ่อสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งหากปล่อยให้ธรรมชาติฟื้นฟูเองก็จะใช้เวลานาน หากใช้งบประมาณของทางราชการอย่างเดียวก็จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงได้มีการจัดโครงการฯเพื่อร่วมกันเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๔ พรรษา และเพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อช่วยกันเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งการปลูกป่าชายเลนจะส่งผลให้ระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่งเป็นไปอย่างสมดุล ในการปลูกป่าประชารัฐในครั้งนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะร่วมกับชุมชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ที่ทำการตรวจยึดที่ตำบลทุ่งคา อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ในเบื้องต้นจำนวน ๑๗๐ ไร่

สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร มีพื้นที่ทั้งหมด 317 ตารางกิโลเมตร หรือ 198,125 ไร่ โดยจำแนกได้เป็น พื้นที่น้ำประมาณ 165,696 ไร่ หรือประมาณ 80.5% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่บก ประมาณ 32,156 ไร่ หรือประมาณ 19.5% ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยพื้นที่บกประกอบด้วย พื้นที่ป่าชายเลน 17,375 ไร่ พื้นที่เกาะ 3,219 ไร่ และพื้นที่ภูเขาและพื้นที่อื่นๆ 11,562 ไร่ มีเกาะต่างๆ กว่า ๔๐ เกาะ เช่น เกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ มักปรากฏเป็นโพรงถ้ำใต้ทะเล บางแห่งมีความยาวมากกว่า 15 เมตร และกว้างกว่า 10 เมตร ภายในถ้ำมักพบฟองน้ำ ปะการัง และสัตว์ทะเลหลายชนิด อาศัยอยู่ภายใน นอกจากนี้บริเวณเกาะง่ามใหญ่และเกาะง่ามน้อย ยังพบเห็นฉลามวาฬ (Whale shark) ซึ่งถือเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกได้บ่อยครั้ง แนวปะการังน้ำตื้น พบได้ในบริเวณเกาะมาตรา เกาะทองหลาง เกาะรังกาจิว เกาะละวะ เกาะแกลบ และเกาะอีแรด เป็นต้น

นอกจากนี้ยังได้มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่มาร่วมกิจกรรมฯ มอบเกียรติบัตรฯ ให้กับหน่วยงานที่ร่วมสนับสนุนโครงการฯ และมอบอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานในสังกัด

จากนั้นมีการปล่อยนกกรงหัวจุกปล่อยสัตว์น้ำ อีกด้วย.