"ทส.ผนึกกำลัง 3 เหล่าพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ลุยตรวจสอบพื้นที่ถูกบุกรุก อช.หมู่เกาะลันตา จ.กระบี่"

วันนี้ ( ๒๐ กันยายน ๒๕๕๙) เวลา ๑๑.๐๐ น. คณะพนักงานเจ้าหน้าที่โดยการอำนวยการ ของ พลตรีรณณรงค์ โคตรดำรงค์ รองประธานอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ปทส. มี พ.ต.อ.บัญชา ปั้นประดับ เป็นหัวหน้าชุดฯ เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ฉก.พญาเสือ) โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยฯ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เจ้าหน้าที่ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อย เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปราบปรามภาคใต้ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๒ สาขากระบี่ กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ ๔ (ศปป.๔) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เจ้าหน้าที่ชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เจ้าหน้าที่กรมที่ดิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ 

ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ยึดถือครอบครอง รวมทั้งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ในที่ดิน ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๖๔/๒๕๕๗ สั่ง ณ วันที่ ๑๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และคำสั่งที่ ๖๖/๒๕๕๗ สั่ง ณ วันที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง เพิ่มเติมหน่วยงานสำหรับการปราบปราม หยุดยั้งการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ และนโยบายการปฏิบัติงานเป็นการชั่วคราว ในสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยได้ร่วมกันดำเนินการปราบปราม และจับกุมผู้บุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลายหรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำให้เสื่อมสภาพป่า รวมทั้งผู้สมคบ และสนับสนุนช่วยเหลือ และสกัดกั้นการลักลอบตัดไม้มีค่าหรือไม้หวงห้าม การนำเข้าหรือส่งออกไม้ที่ผิดกฎหมาย บริเวณป่าบ้านคลองน้ำจืด หมู่ที่ ๕ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่แจ้งครอบครองที่ดินเพื่อรอการพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ ไว้ในแปลง CN2 ลำดับที่ ๑ ท้องที่หมู่ที่ ๕ ตำบลเกาะลันตาใหญ่ อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ในชื่อ นายรักชาติ ก๊กใหญ่ เนื้อที่รวมทั้งหมด ๕๘ – ๓ – ๘๐ ไร่ โดยระบุการทำประโยชน์เป็น “ปลูกยางพารา”

 คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการเดินสำรวจพื้นที่แล้วพบว่า ปัจจุบันพื้นที่แปลงดังกล่าวอยู่บนภูเขาสูงชัน มีสภาพเป็นป่าดิบชื้นมีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ไม่มีร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่แต่อย่างใด และในพื้นที่ดังกล่าวอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเคยทำการตรวจยึดพื้นที่และแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๑ ตาม ปจว.ข้อ ๓ คดีอาญาที่ ๑๓๘/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๑ เวลา ๑๖.๐๐ น. ซึ่งไม่อยู่/ผิดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการแจ้งการครอบครองที่ดินของราษฎรในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการจับพิกัดด้วยเครื่องวัดพิกัดด้วยสัญญาณดาวเทียม (GPS) ระบบ (WGS ๘๔) รอบแปลงพื้นที่ยึดถือครอบครอง จำนวน ๒๒ จุด เนื้อที่รวมทั้งหมด ๕๘ – ๓ – ๘๐ ไร่

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า พื้นที่แปลงที่ดินที่ นายรักชาติ ก๊กใหญ่ แจ้งการครอบครองที่ดินเพื่อตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ฯ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ เนื้อที่รวมทั้งหมด ๕๘ – ๓ – ๘๐ ไร่ แปลงดังกล่าว ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การแจ้งการครอบครองที่ดินของราษฎรในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพื่อตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรีฯ ดังกล่าว  เห็นควรให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะลันตา เรียก นายรักชาติ ก๊กใหญ่ มารับทราบบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ และจัดทำ “บันทึกสละการครอบครองที่ดิน เพื่อตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑” ร่วมกับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้จัดทำบันทึกการตรวจสอบพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แจ้งความเป็นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเกาะลันตา เพื่อติดตามตัว นายรักชาติ ก๊กใหญ่ มาดำเนินการจัดทำ “บันทึกสละการครอบครองที่ดิน เพื่อตรวจสอบพิสูจน์สิทธิ์ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑” โดยมอบให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นผู้แจ้งความและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป.

ชมคลิปวีดีโอ

ที่มาเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช