เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) วันที่ 30
ม.ค.นี้คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่มีนางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ เป็นประธาน เตรียมเสนอรายงานเรื่องการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้และเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ:มาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)อุทยานแห่งชาติ พ.ศ….และร่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ….
ม.ค.นี้คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมที่มีนางพรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ เป็นประธาน เตรียมเสนอรายงานเรื่องการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์ที่ดินป่าไม้และเพิ่มพื้นที่ป่าของประเทศ:มาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)อุทยานแห่งชาติ พ.ศ….และร่าง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ….
โดยรายงานดังกล่าวมีสาระสำคัญคือ
การออกมาตรการและปรับปรุงกฎหมายเพื่อแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์
ซึ่งตามมติครม. 30 มิ.ย. 2541
มีผู้ครอบครองที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์จำนวน 5.9 ล้านไร่
โดยกฎหมายและกลไกทางนโบยายในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้กรรมาธิการฯ
มีข้อเสนอแนะคือสำหรับการออกมาตรการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์นั้น
ให้มีคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย
ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรี เพื่อกำกับดูแลและแก้ไขปัญหา
โดยพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี นายทุนหรือ ผู้บุกรุกรายใหม่ภายหลังคำสั่ง
คสช.ที่ 66/2557 จะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย นอกจากนั้นต้องมีการปรับแก้ พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504 และ.พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535
ที่บังคับใช้มานานและไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการใช้ที่ดินในป่าอนุรักษ์อย่างไม่เหมาะสม
โดยมีการแบ่งเขตและจัดการพื้นที่ป่าตามหลักวิชาการ
และอนุวัตให้เป็นไปตามพันธสัญญาระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.อุทยานฯ พ.ศ…. มีข้อสังเกตคือ ในหมวด 5 เรื่องบทกำหนดบทลงโทษ มาตรา 46 ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีการะบุว่า
บรรดาอสังหาริมทรัพย์จำพวกสิ่งปลูกสร้างที่ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
ไม่ต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุ
และอาจนำมาใช้ประโยชน์ในภารกิจของกรมอุทยานแหงชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ตามหลักเกณฑ์และวิธีและวิธีการที่อธิบดีกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการกฤษฎีกาเคยตีความว่ากรมอุทยานฯ ไม่สามารถรับมอบสิ่งปลูกสร้างที่บุกรุกพื้นที่อุทยานฯ
ได้ เนื่องจากขัดต่อเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.อุทยานฯ 2504.
ที่มา... http://www.dailynews.co.th/politics/551986
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น