วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2560

กรมป่าไม้ชี้แจง!! ให้ความเป็นธรรมและโปร่งใสกับม้งภูทับเบิกทุกราย

กรมป่าไม้ยืนยันให้ความเป็นธรรมและโปร่งใสกับม้งภูทับเบิกทุกราย

นายชลธิศ สุรัสวดี  อธิบดีกรมป่าไม้  เปิดเผยถึงกรณีที่นายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำกลุ่มตัวแทนเจ้าของรีสอร์ตบนภูทับเบิก เตรียมเข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อขอให้ชะลอการปฏิบัติตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 35/59 กรณีมาตรการแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก โดยระบุว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ที่ครอบครองทำประโยชน์มิใช่ป่าตามมาตรา 4 (1) พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 แต่เป็นที่ดินที่ครอบครองสืบสิทธิต่อเนื่องมาจากบรรพบุรุษดั้งเดิม  และขณะนี้ชาวบ้านเกิดความสับสนต่อนโยบาย 3-8-8 ที่ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง เหลือไว้แต่สิ่งปลูกสร้างที่มั่นคงแข็งแรง แต่ภายหลังกลับมาถูกมาตรา 44 ให้รื้อถอนทั้งหมดทั้งที่ยังไม่ได้ขึ้นศาล และยังไม่ทราบว่ามีความผิดผิดเช่นไร แต่กลับถูกปิดประกาศไม่ให้เปิดบริการ  ว่า  พื้นที่ป่าภูทับเบิก ยังคงมีสถานะเป็นพื้นที่ป่า ตามคำนิยามศัพท์ ของคำว่าป่าตามมาตรา 4 (1) พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ที่ให้ความหมายไว้ว่า ที่ดินที่ยังมิได้มีบุคคลได้มาตามกฎหมายที่ดิน  ดังจะเห็นได้จากการพิจารณาในชั้นศาลเพื่อวินิจฉัยสถานะของพื้นที่ในบริเวณภูทับเบิกตามคำพิพากษาศาลปกครองพิษณุโลกเมื่อวันที่  29  กุมภาพันธ์  2555  โดยอำนาจหน้าที่ในการควบคุม  ดูแล  ป้องกันการบุกรุกทำลายป่าเป็นของกรมป่าไม้  ฉะนั้นการปฏิบัติการใด ๆ จึงเป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบของกฎหมาย





ธิบดีกรมป่าไม้  กล่าวต่อไปว่า  เมื่อมีคำสั่งที่ 35/2559 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงวันที่  5  กรกฎาคม  2559  เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกับผู้ที่เข้ามายึดถือครอบครองที่ดินบนภูทับเบิก แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม  ดังนี้  กลุ่มที่ 1 จำนวน 19 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากพื้นที่ แต่เมื่อไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของศาล  จึงได้อาศัยอำนาจตามคำสั่งดังกล่าวดำเนินการรื้อถอน  ส่วนกลุ่มที่ 2  และ 3  เจ้าหน้าที่ได้อาศัยอำนาจตามคำสั่งที่ 35/2559 ของ คสช. และแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก (3 - 8 - 8) มาใช้เป็นแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหา  โดยในกลุ่มที่  2  ซึ่งเป็นกลุ่มที่มาร้องเรียนนั้น  ได้พิจารณาคุณสมบัติของผู้ถือครองที่ดินจากหลักฐานของกรมประชาสงเคราะห์เดิม และลักษณะการก่อสร้างรีสอร์ต  พบว่ามีจำนวน 19 ราย  อยู่ในพื้นที่กรมป่าไม้ 18  ราย และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 1 ราย  โดยใน 18 ราย เป็นบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกำหนดไว้ จำนวน 10 ราย ซึ่งได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว อีก  8  รายอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการ  สำหรับกลุ่มที่  3 จำนวน  64 ราย ได้ผ่านขั้นตอนการพิจารณาตามคำสั่งจังหวัดเพชรบูรณ์ที่  1519/2559  ลงวันที่ 7 กรกฎาคม  2559  ผลปรากฏว่า 14 รายขาดคุณสมบัติ  และอีก 50  ราย  เป็นราษฎรในพื้นที่ที่มีคุณสมบัติ จึงจะได้รับการพิจารณาให้ใช้ประโยชน์ตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก  




สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มม้งทั้ง 8 รายนั้น ทางคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการรื้อถอนและเก็บทรัพย์สินของกลาง  ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก เป็นหัวหน้าคณะทำงาน  จะเสนอให้มีการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติว่าเป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการกำหนดไว้หรือไม่  พร้อมทั้งจะดำเนินการชี้แจงกับราษฎรชาวไทยภูเขา  ผู้นำชุมชน  และตัวแทนผู้ร้องเรียนให้เข้าใจถึงมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิกที่ถูกต้องต่อไป  ทั้งนี้  ขอยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย”  อธิบดีกรมป่าไม้  กล่าว

ที่มา...https://hotissue.forest.go.th/view/2560/06/18

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...