หนาวแน่บรรดาผู้มีอิทธิพลและขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า กระทรวงทรัพยากรฯส่งรายชื่อให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกตัวมาดับรัศมีความเป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่ในวงการผิดกฎหมาย แฉมีทั้งข้าราชการป่าไม้ ครู ตำรวจ ทหาร นักการเมืองท้องถิ่น กว่า 300 คน
เตรียมตัวโดนล้างกันได้แล้ว สำหรับบรรดาผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้มีอิทธิพลเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า หรือผู้มีอิทธิพลที่บุกรุกที่ดินในเขตป่าสงวนฯ ทั้งนี้ ที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เปิดเผยหลังประชุมผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกรมป่าไม้ว่า กระทรวงฯเตรียมส่งรายชื่อผู้มีอิทธิพลที่เข้ามาทำให้ป่าไม้และสัตว์ป่าได้รับความเสียหายให้กับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในสัปดาห์หน้าโดยมี 2 ส่วน คือ ผู้มีอิทธิพลด้านป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งผู้มีอิทธิพลด้านป่าไม้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับการลักลอบตัดไม้ พะยูง และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการลักลอบตัดไม้สัก โดยทั้ง 2 ขบวนการจะมีผู้คอยอำนวยความสะดวก หรือผู้ที่เกี่ยวข้องคือ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของทั้งกรมป่าไม้กับกรมอุทยานแห่งชาติฯ อีกกลุ่มหนึ่งที่มีรายชื่ออยู่ในมือ คือ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 กรม ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการผู้มีอิทธิพล
ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯกล่าวต่อว่า รายชื่อทั้งหมดขณะนี้มีชื่ออยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เชื่อตามที่ได้รับข้อมูลมาทั้งหมด เพราะอาจจะมีการกลั่นแกล้งใส่ความกันเอง ต้องเอารายชื่อทั้งหมดมากลั่นกรอง จากนั้นจะส่งให้ คสช. เพื่อให้เรียกผู้มีอิทธิพลทั้งหมดมาปรับทัศนคติใหม่ เข้าใจว่า คสช.จะเรียกทั้งหมดให้มารายงานตัวมาเร็วๆนี้ เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯและกรมป่าไม้ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ระดับใดบ้าง นายโชติ กล่าวว่า มีทุกระดับ เป็นระดับผู้อำนวยการสำนักอย่างน้อย 2 คน อยากรู้ว่าเป็นใครบ้างให้อดใจฟังประกาศของ คสช. ที่สำคัญ คสช.เองก็มีรายชื่อข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการตัดไม้ทำลายป่าอยู่แล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ
สำหรับรายชื่อบุคคล กลุ่มขบวนการ พฤติกรรมที่พัวพันกับการลักลอบตัดไม้ทำลายป่ารวมทั้งลักลอบตัดไม้พะยูง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประมาณ 392 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 110 คน เป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ 4 คน กรมป่าไม้ 7 คน ข้าราชการครู 2 คน ข้าราชการกรมการปกครอง 1 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 33 คน เจ้าหน้าที่ทหาร 1 คน นักการเมืองท้องถิ่น 17 คน กำนันและผู้ใหญ่บ้าน 45 คน ราษฎรที่เป็นนายทุนและตัวการใหญ่ 76 คน และราษฎรทั่วไป 206 คน ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น 118 คน อุดรธานี 56 คน นครราชสีมา 46 คน ศรีสะเกษ 28 คน มุกดาหาร 25 คน ปราจีนบุรี 18 คน กาฬสินธุ์ 15 คน จันทบุรี 11 คน เป็นต้น
สำหรับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่อยู่ในข่าย ในบันทึกรายงานของกระทรวงฯ มีพนักงานราชการและเจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน อุทยานฯทับลาน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ข้าราชการครู ระดับ ผอ.โรงเรียนที่ ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ปลัดอำเภอแห่งหนึ่งใน จ.สระแก้ว ถูกระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังกลุ่มทำไม้ นำชาวกัมพูชาเข้ามาทำไม้พื้นที่ป่า มีอาวุธสงคราม นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจป่าไม้ ยศตั้งแต่พันตำรวจเอกลงมาถึงสิบตำรวจตรีในจังหวัดทางภาคอีสานทั้งตอนบนและตอนล่างนับสิบราย ที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมว่าเป็นผู้สนับสนุน คุ้มกัน ดูเส้นทาง การข่าว ตัวการ เป็นกลุ่มที่รับเคลียร์เส้นทางแนะนำไม้ออกจากป่า จ้างงานและสนับสนุนคนเข้าไปทำไม้พะยูง ชักนำชี้แนวทางใกล้กลุ่มทำไม้ทั้งชาวไทยและกัมพูชา โดยหวังสินจ้างรางวัลพร้อมทั้งรับซื้อและขนย้ายออกไปยังโกดังไม้ใหญ่ริมแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ยังมีนายทหารยศร้อยเอกที่จังหวัดภาคอีสานที่ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมว่าเป็นตัวการใหญ่ในฐานะผู้สนับสนุน ให้ข่าวและช่วยเหลือตัวประกัน ในพื้นที่อุทยานฯภูเวียง อุทยานฯภูผาม่าน ป่าห้วยโสมง จ.ปราจีนบุรี เป็นต้น
ส่วนรายชื่อนักการเมืองท้องถิ่นมีตั้งแต่นายก อบต.และสมาชิก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถูกระบุว่ามีพฤติกรรมทำไม้ตั้งแต่การเป็นนายหน้ารับ-ซื้อ-ส่งไม้พะยูง เป็นนายทุน เป็นตัวการ ผู้สนับสนุนในพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน อุทยานฯภูผาม่าน อุทยานฯภูเวียง ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านนา-ทุ่งควายกิน อุทยานฯเขาชะเมา-เขาวง อุทยานฯตราพระยา อุทยานฯปางสีดา อุทยานฯ ภูทับเบิก ในพื้นที่ชายแดนไทย-ลาวด้าน จ.มุกดาหาร ป่าสงวนฯดงใหญ่ อุทยานฯภูผาเหล็ก จ.สกลนคร เป็นต้น
ที่มา..http://m.thairath.co.th/content/429463
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น