วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

กรมอุทยานฯ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 นาย เข้าทำการขนย้ายเสือโคร่งของกลาง 137 ตัว ออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน

วันนี้ (30 พ.ค.59) เวลา 09.00 น. นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำเจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ทีมสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี ฝ่ายปกครอง ทหารพล.ร.9 ตชด.ที่13 ร่วมปฏิบัติการเข้าดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งที่เหลืออีกจำนวน 137 ตัว จากทั้งหมด 147 ตัว หลังจากเคยดำเนินการครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 ม.ค.59 จำนวน 5 ตัว ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.59 จำนวน 5 ออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนำไปดูแลรักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯต่อไป
การเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ติดตามสถานการณ์กรณีเสือโคร่งของกลางที่ฝากเลี้ยงไว้ชั่วคราวที่วัดหลวงตาบัว ญาณสัมปันโนมาอย่างต่อเนื่อง และพบว่าทางวัดได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชองกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ไม่อนุญาตให้นำเสือออกจากกรงเลี้ยงเพื่อมาให้นักท่องเที่ยวสัมผัส ถ่ายรูป ป้อนอาหาร และเดินจูง โดยมีการเก็บเงินจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์จากทรัพย์สินของทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเจตนาจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อกฎหมาย นอกจากนี้ การดำเนินการของทางวัดดังกล่าวเป็นการเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว

ดังนั้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้มอบหมายให้ นายอดิศร นุชดำรงค์ รองออส. เป็นผู้ควบคุมสั่งการหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายเพื่อขนย้ายเสือโคร่งของกลางทั้งหมดออกจากวัดและนำมาเลี้ยงดูในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของทางราชการ


นายอดิศร นุชดำรงค์ รองออส. กล่าวถึงการดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน มีขั้นตอนรายละเอียด ดังต่อไปนี้



๑.ทำหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งเจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน และมูลนิธิ วัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ยกเลิกการฝากเลี้ยงและให้ความร่วมมือส่งมอบเสือโคร่งของกลางทั้งหมดให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยนัดหมายในการส่งมอบและเริ่มขนย้ายตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น หากต่อสู้ขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

๒.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่กว่า 2000 นายร่วมปฏิบัติการ ในกรณีมีการขัดขวางและใช้มวลชนต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่


๓.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดเตรียมสัตวแพทย์และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรงคอกสำหรับเสือโคร่งของกลางไว้พร้อมแล้ว โดยจะนำเสือโคร่งทั้งหมดไปเลี้ยงดูที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี ซึ่งขณะนี้มีเสือโคร่งของกลางเหลืออยู่ในวัดฯ จำนวน ๑๓๗ ตัว คาดว่าจะขนย้ายเสือโคร่งได้วันละประมาณ ๒๐ ตัว



จากการเข้าปฏิบัติการ ปรากฏว่าทางวัด อ้างว่าอยู่ขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองและขอความเป็นธรรม จึงไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปดำเนินการได้ โดยได้มีการหารือนานพอสมควร นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดี อส. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองนิติการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปขอหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ค.59) ทางวัดได้อนุญาตให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าดำเนินการขนย้ายเสือแล้ว



ที่มาข้อมูลจาก..เพจส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ ฯ 

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...