วันนี้ (30 พ.ค.59) เวลา 09.00 น.
นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
นำเจ้าหน้าที่จากสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3
(บ้านโป่ง) ทีมสัตวแพทย์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี ฝ่ายปกครอง ทหารพล.ร.9 ตชด.ที่13
ร่วมปฏิบัติการเข้าดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งที่เหลืออีกจำนวน 137 ตัว จากทั้งหมด
147 ตัว หลังจากเคยดำเนินการครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 ม.ค.59 จำนวน 5 ตัว ครั้งที่
2 เมื่อวันที่ 23 ก.พ.59 จำนวน 5 ออกจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
จังหวัดกาญจนบุรี
เพื่อนำไปดูแลรักษาที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯต่อไป
การเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ได้ติดตามสถานการณ์กรณีเสือโคร่งของกลางที่ฝากเลี้ยงไว้ชั่วคราวที่วัดหลวงตาบัว
ญาณสัมปันโนมาอย่างต่อเนื่อง
และพบว่าทางวัดได้ฝ่าฝืนคำสั่งห้ามชองกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
ที่ไม่อนุญาตให้นำเสือออกจากกรงเลี้ยงเพื่อมาให้นักท่องเที่ยวสัมผัส ถ่ายรูป
ป้อนอาหาร และเดินจูง โดยมีการเก็บเงินจากนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการแสวงหาประโยชน์จากทรัพย์สินของทางราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต
และเจตนาจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อกฎหมาย นอกจากนี้
การดำเนินการของทางวัดดังกล่าวเป็นการเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว
ดังนั้น นายธัญญา เนติธรรมกุล
อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้มอบหมายให้ นายอดิศร
นุชดำรงค์ รองออส.
เป็นผู้ควบคุมสั่งการหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทหาร
และฝ่ายปกครองดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายเพื่อขนย้ายเสือโคร่งของกลางทั้งหมดออกจากวัดและนำมาเลี้ยงดูในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าของทางราชการ
นายอดิศร นุชดำรงค์ รองออส.
กล่าวถึงการดำเนินการขนย้ายเสือโคร่งของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินจากวัดป่าหลวงตาบัว
ญาณสัมปันโน มีขั้นตอนรายละเอียด ดังต่อไปนี้
๑.ทำหนังสืออย่างเป็นทางการแจ้งเจ้าอาวาสวัดป่าหลวงตาบัว
ญาณสัมปันโน และมูลนิธิ วัดป่าหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน
ยกเลิกการฝากเลี้ยงและให้ความร่วมมือส่งมอบเสือโคร่งของกลางทั้งหมดให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ
โดยนัดหมายในการส่งมอบและเริ่มขนย้ายตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๙
เป็นต้นไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น หากต่อสู้ขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดและถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
๒.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองในพื้นที่กว่า 2000
นายร่วมปฏิบัติการ
ในกรณีมีการขัดขวางและใช้มวลชนต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
๓.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า
และพันธุ์พืช ได้จัดเตรียมสัตวแพทย์และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งกรงคอกสำหรับเสือโคร่งของกลางไว้พร้อมแล้ว
โดยจะนำเสือโคร่งทั้งหมดไปเลี้ยงดูที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง
และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี
ซึ่งขณะนี้มีเสือโคร่งของกลางเหลืออยู่ในวัดฯ จำนวน ๑๓๗ ตัว
คาดว่าจะขนย้ายเสือโคร่งได้วันละประมาณ ๒๐ ตัว
จากการเข้าปฏิบัติการ ปรากฏว่าทางวัด
อ้างว่าอยู่ขั้นตอนการพิจารณาของศาลปกครองและขอความเป็นธรรม
จึงไม่สามารถอนุญาตให้เข้าไปดำเนินการได้ โดยได้มีการหารือนานพอสมควร นายอดิศร
นุชดำรงค์ รองอธิบดี อส. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองนิติการกรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ไปขอหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ค.59)
ทางวัดได้อนุญาตให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
เข้าดำเนินการขนย้ายเสือแล้ว
ที่มาข้อมูลจาก..เพจส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ
ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น