วันพุธที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2561

"ศปก.พป" สั่งฟันไม่เลี้ยง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ร่วมขบวนการค้าไม้ข้ามชาติ


ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ศปก.พป) สั่งฟันไม่เลี้ยง
เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ขบวนการไม้ข้ามชาติซุกในหน่วยป่าไม้ก่อนพยายามจะข้นย้ายลงท่าเรือเถื่อนริมแม่น้ำโขงในเขตอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เพื่อลักลอบไปต่างประเทศ ก่อนจนมุมเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบพบทำเป็นขบวนการมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเกี่ยวข้อง นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติพิทักษ์ป่า (ศปก.พป) พร้อมชุดพยัคฆ์ไพร ลงพื้นที่สั่งขยายผลให้ไล่ออกเจ้าหน้าที่หน่วยป่าไม้และให้แจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติมพร้อมพ่อไม้ค้าไม้ในขบวนการ และสั่งขยายผลให้ถึงที่สุดคาดยังมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเกี่ยวข้องอีก
 



 ความคืบหน้า การปฏิบัติการขยายผล ต่อกลุ่มขบวนการลักลอบไม้มีค่ารายใหญ่ข้ามชาติ ตามที่เป็นข่าวนำไม้เถื่อนมาซุกซ่อนอยู่ในหน่วยป่าไม้ที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
   เมื่อ 25 มี.ค.61 เวลา 03.00 น. มีกลุ่มขบวนการนำเอาไม้แปรรูปและไม้ท่อนจำนวน 20 ท่อน และไม้ประดู่แปรรูปอีก 111 แผ่น/เหลี่ยม นำใส่รถบรรทุกมาเทกอง ไว้ภายในหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.13 (ดอยหลวงแปเมือง) ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  และในเวลานั้นมีนายสันติ วิเวกวิน ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตรวจป่า ทำหน้าที่เวรยามขณะนั้นโดยนายสันติ ให้การว่าได้ออกมาตรวจสอบแต่พบว่ารถที่ขนย้ายไม้มานั้นได้ขับหายออกไปก่อนไม่สามารถจำรายละเอียดได้ และได้พบกับ
นายคำดี อินทะวงศ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งบุคคลภายนอกปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ตรวจป่า(พนักงานจ้างเหมา) ได้เดินมาแจ้งกับนายสันติ ๆว่าตนเองเป็นผู้อนุญาตให้ นายเอกชัย ลิ้มประเสริฐ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของไม้นำไม้ดังกล่าวมาเทกองไว้ที่หน่วยเอง โดยอ้างว่าเป็นไม้ที่ถูกต้อง และจะนำเอกสารมาแสดงในตอนเช้า และเมื่อตอนเช้านายคำดี ได้นำเอกสารการได้มาของไม้จากเอกสารสิทธิที่ดิน ในเขตจังหวัดทางภาคอีสานจำนวน 19 ชุด มาทิ้งไว้ที่โต๊ะในสำนักงานโดยไม่ได้มาอธิบายอะไร นายสันติ จึงได้แจ้งให้นายวัชระ ศักดิ์เจริญ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยๆทราบ ช่วงเวลา 8.30 น. และนายวัชระ หัวหน้าหน่วยก็ไม่ได้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด โดยอ้างว่าติดภารกิจดับไฟป่าที่อื่น





    ต่อมาในช่วงบ่ายของเดียวกันได้มีรถยก และรถบรรทุกสิบล้อเข้ามาขนย้ายไม้ดังกล่าวออกไป
และถูกเจ้าหน้าที่ตรวจอายัดไม้ทั้งหมด เมื่อเวลา 18.30 น. โดย คณะเจ้าหน้าที่จาก นรข.เขตเชียงราย ,ร้อย ทพ.3103 ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.เชียงแสน, ศปป.ข. ตำรวจน้ำเชียงแสน และ ,ตชด.เชียงแสน  ทำการตรวจยึดรถบรรทุกสิบล้อ จำนวน 2 คัน บริเวณบนถนนบ้านสบคำ-เชียงแสนสามแยกคุ้มขนาบโขง หมู่ 3 บ้านป่าสักหางเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  ผลการตรวจยึดมีดังนี้ รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อมิตซูบิชิ  หมายเลขทะเบียน 70-6393 เชียงราย รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้ออีซูซุ  หมายเลขทะเบียน 70-7331 เชียงราย ตรวจสอบพบไม้กระยาเลยท่อน จำนวน  16 ท่อน และ อีก 3 เหลี่ยมท่อน พบว่าไม่มีรอยดวงตราของเจ้าพนักงานป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอดูเอกสาร หลักฐานการเคลื่อนย้ายไม้ดังกล่าว โดยนาย เสฏฐพัฒน์ ระลึก อายุ 47 ปี และนาย วิระ อาริยะยิ่ง อายุ 50 ปี คนขับรถไม่สามารถนำหลักฐานการเคลื่อนย้าย และการครอบครองมาแสดงได้ คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมทำการตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน เพื่อตรวจสอบและแจ้งให้นายวัชระ ศักดิ์เจริญ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.13 ทราบเพื่อมาร่วมตรวจสอบให้ข้อเท็จจริง และในช่วงเวลาเดียวเมื่อกลุ่มขบวนการทราบว่าไม้ท่อนที่ขนย้ายออกมาจากหน่วยป่าไม้ ถูกตรวจยึดแล้วกลุ่มขบวนการจึงสั่งการให้รถบรรทุกที่ได้บรรทุกไม้ประดู่แปรรูปที่นำขึ้นบนรถเพื่อเคลื่อนย้ายออกจากหน่วยตามแผนการที่วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนแรก เทไม้ประดู่แปรรูปทั้งหมดทิ้งไว้ที่หน่วยป่าไม้ตามเดิมและหลบหนีไป และภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม้ท่อนและไม้แปรรูปทั้งหมด เป็นไม้ที่ผิดกฎหมาย





   ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2561 นายวัชระ  ศักดิ์เจริญ ตำแหน่งเจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน จึงได้มาตรวจสอบทำบันทึกดำเนินคดี ไม้ประดู่แปรูปที่กองทิ้งไว้ที่หน่วยๆ เพื่อนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซว อ.เชียงแสน ดำเนินคดีเป็นคดีแยกจากคดีไม้ท่อนอีกคดีหนึ่ง
              ความคืบหน้าล่าสุด นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดี กรมป่าไม้ และ นายชีวะภาพ
ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผอ.สจป.ที่ 2 (เชียงราย) พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงขยายผลตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยล่าสุดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า นายคำดี อินทวงค์ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตรวจป่ามีความผิดจริงฐานร่วมกับนายเอกชัย ลิ้มประเสริฐ ร่วมกันมีไม้ท่อนและไม้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงมีคำสั่งให้ไล่ออกนายคำดี อินทวงค์  และนายอรรถพล เจริญชันษา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบประสานงานดำเนินการไปแจ้งความเพิ่มเติมกับนายคำดี และ
 นายเอกชัย เพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซวและ สภ.เชียงแสน.ทั้ง 2 คดี และให้ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มขบวนการร่วมทั้งเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ต้องดำเนินคดีให้หมดอย่างตรงไปตรงมาทั้งหมด คาดว่าน่าจะมีเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเกี่ยวข้องอีกหลายคน







    ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าแห่งชาติ (คปป.)โดยการอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ พล.ท.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน.,  พ.ต.อ. ปัญญา ปิ่นสุข รักษาการแทนผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, และฝ่ายทหาร ได้พยายามร่วมบูรณาการปฏิบัติการเชิงรุกต่อกลุ่มขบวนการลักลอบไม้ข้ามชาติในรูปแบบต่างมาตลอดและได้ขยายผลความผิดฐาน พ.ร.บ.การฟอกเงิน โดยประสานส่งเรื่องราวให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการพอกเงิน ได้ดำเนินต่อกลุ่มขบวนการและบุคคลอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งจะมีการดำเนินการขยายผลให้ถึงที่สุดต่อไป






   นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดี กรมป่าไม้ กล่าวว่าคดีดังกล่าวถือว่ามีความอุกอาจของกลุ่มขบวนการมาก จากการตรวจสอบพบน่าจะเป็นกลุ่มขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติขบวนการใหญ่ของประเทศ ที่มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเข้าไปเกี่ยวข้องน่าจะหลายหน่วยงาน ซึ่งจะได้ประสาน
บูรณาการทุกหน่วยงานให้ขยายผลให้ถึงที่สุด รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบขยายผลทางการเงินเพื่อขยายผลร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการพอกเงิน ดำเนินการยึดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
     ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ได้ให้นโยบายไว้ชัดเจนโดยให้หัวหน้าส่วนราชการพิจารณาการปรับย้ายและลงโทษ  กรณีที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการที่กระทำผิดกฎหมาย ให้ถึงที่สุดตามแนวทาง มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2561  และเน้นการร่วมบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปฏิบัติงานบังคับใช้กฎหมายต่อขบวนการบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าไม้แบบผิดกฎหมาย รวมทั้งขบวนการออกเอกสารสิทธิโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าไม้ รวมทั้งการลักลอบทำไม้มีค่าหายากโดยกลุ่มขบวนการข้ามชาติให้ถึงที่สุด
 
   

ที่มา..นาย ชีวะภาพ ชีวะธรรม
ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...