วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ชุดพยัคฆ์ไพร! จับ 2 พนักงานราชการ จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่าฯ กรมป่าไม้ ฐานร่วมขบวนการขายไม้ของกลาง

“เกลือเป็นหนอน” อยู่เวรยามอ้างหลับ เปิดทางขนไม้พะยูงของกลาง
กรมป่าไม้ โดยชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับ บก.ปทส,ตำรวจภูธรภาค3 จัดหนัก “เเก๊งขโมยไม้ของกลาง พบตัวการเป็น 2 เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยป่าไม้ที่ยโสธร ทำทีออกตรวจเวรยาม เปิดทางขบวนการ เอารถกระบะเข้ามาขนออกไปขาย มูลค่านับล้านบาท



 จากกรณีไม้ของกลางของหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ยส.2 (โพนงาม-ดงปอ) หมู่ที่ 3 ต.น้ำสร้าง อ.กุดชุม จ.ยโสธร สูญหายอย่างมีเงื่อนงำ และตามนโยบายข้อสั่งการ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ล่าสุด นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) สั่งการให้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ นำทีมพยัคฆ์ไพร ประสานหน่วยตำรวจ เร่งรัดขยายผลตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดตามดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
จากการสืบสวนพบว่า ไม้พะยูงของ กลางในคดี สูญหายจำนวน 33 ท่อน/เหลี่ยม ปริมาตร 2.90 ลูกบาศก์เมตร (มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 1,160,000 บาท) สืบสวนสอบสวนจนทราบถึงกลุ่มขบวนการ โดยมีข้อมูลชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่ของหน่วยป้องกันรักษาป่า (ยส2) มีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้อง ประกอบด้วย
1.นายสุระศักดิ์ ชื่นตา ตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานพิทักษ์ป่า (พนักงานราชการ)
2.นายสุพัฒน์ แก้วอ่อน ตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานพิทักษ์ป่า (พนักงานราชการ)
การตรวจสอบพบข้อมูลชัดเจนว่า ไม้พะยูงของกลางหายไปช่วง ตั้งแต่เวลา 00.30-03.00 น ของวันที่ 21 กันยายน 2562 เป็นช่วงที่เวลาเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายปฎิบัติงานเวรยาม แต่จากการตรวจสอบการรายงานพบว่า ทั้งสองได้เตรียมถ่ายภาพ ที่มีรูปกองไม้ที่หายไปและรูปของทั้ง2นาย โดยถ่ายเก็บไว้หลายๆภาพ และนำมาประกอบการรายงานช่วงที่คาดว่าไม้หายตั้งแต่ 00.30, 02.06,04.00,และ06.00น ต่อเนื่องกันถึง 4 ครั้ง ติดต่อกัน โดยรายงานว่าสถานการณ์ปกติ ทั้งที่ขณะนั้นสถานการณ์ไม่ปกติ


โดยมีพยานบุคคลที่เชื่อถือได้หลายปากให้การตรงกันว่า พบเห็นรถยนต์ปิคอัพต้องสงสัย วิ่งเข้ามาในหน่วยพร้อมกลุ่มผู้ชายหลายคน ช่วยกันขนไม้พะยูงของกลาง โดยได้ยินเสียงชัดว่ามีการขนไม้ออกจากหน่วยๆช่วงเวลา 00.30-03.00น
พยานให้การว่ามีการเปิดเพลงเสียงดัง จนทำให้เข้าใจว่ามีงานเลี้ยง หรือมีการไปตรวจยึดจับไม้มาด้วยซ้ำ แต่เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย กลับให้การยืนยันว่าไม่ได้ยินอะไรและอ้างว่าหลับไป ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่ขยายผลตรวจสอบพบเป็นการวางแผนการมาเป็นอย่างดี เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มขบวนการลักลอบเข้ามาขโมยไม้พะยูงของกลาง




เบื้องต้นทำรายงานส่งให้หน่วยงานต้นสังกัดพิจารณาลงโทษทางวินัยสถานหนักเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เเละได้เเจ้งดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 10 ปี หรือปรับตั้ง แต่ 2,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบัง ทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางจำคุก ตั้งแต่ 5 - 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาท
ส่วนการขยายผล พยัคฆ์ไพรยังคงเกาะติด กลุ่มขบวนการที่เป็นบุคคลภายนอกอยู่ โดยมีข้อมูลว่าไม้ของกลางดังกล่าวยังคงถูกกลุ่มขบวนการเก็บซุกซ่อนอยู่ในท้องที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่กำลังขยายผลต่อกลุ่มขบวนการให้ถึงที่สุดต่อไป พร้อมเเจ้งเตือน เจ้าหน้าที่คนใดหน่วยใด ยังไม่หยุดพฤติกรรมลักษณะนี้ เตรียมพบกันเร็ว ๆนี้
ที่มา.. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สปฟ.

ไม่มีความคิดเห็น:

โพสต์แนะนำ

พบเห็น !! การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน ชุด ฉก.พญาเสือ โทร. 097-281-6363

พบเห็นการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โปรดแจ้งสายด่วน  ชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุ...