นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้
เปิดงานวันสถาปนากรมป่าไม้ครบรอบ 121 ปี
โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ โดยที่น่าสนใจอยู่ที่การเปิดตัว
รถตรวจการณ์ 4.0 ซึ่งภายในติดตั้งระบบปฏิบัติการที่ทันสมัย
ประกอบด้วยระบบวิทยุสื่อสารผ่านดาวเทียม หรือเรียกว่า "พยัคฆ์5599"
ซึ่งสามารถติดต่อสั่งการจากโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน เชื่อมต่อถึงวิทยุสื่อสารเครือข่ายป่าไม้ได้ทั่วประเทศตลอด
24 ชั่วโมง รวมถึงติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งรถแบบเรียวทาม
ซึ่งสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของรถ ได้จากโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ถึงแม้รถจะถูกขโมยไป
และถูกทำลายแหล่งจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่หลักของรถ อุปกรณ์ดังกล่าว (กระต่ายน้อย) ก็ยังสามารถทำงานต่อเนื่องได้อีก
1 เดือน อีกระบบที่น่าสนใจก็คือ ระบบตัดสัญญาณโทรศัพท์
และอินเตอร์เน็ตทุกเครือข่าย ซึ่งสาเหตุที่จำเป็นต้องติดตั้งระบบดังกล่าว
เนื่องจากเหตุวางระเบิดที่ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
จนเกรงว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อาจไม่ปลอดภัยต่อกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ที่จะลอบเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ ขณะปิดล้อมดำเนินคดีผู้กระทำความผิด และยังสามารถใช้ตัดสัญญาณเพื่อป้องกันการแอบแจ้งข่าวให้บุคคลอื่นรับทราบกรณีการปฏิบัติการลับ
นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งกล้องด้านหน้ารถ และหลังรถ
และด้านข้างรถ เพื่อบันทึกข้อมูลขณะติดตามผู้กระทำความผิด
โดยเฉพาะติดตามขบวนการลักลอบค้าไม้ข้ามชาติ
รวมถึงติดตั้งระบบนำร่องการเดินทางที่แม่นยำชัดเจนในพื้นที่ทั่วประเทศ
ระบบตรวจสอบพื้นที่ป่าไม้ และระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูล
ถ้าโอนข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลได้ทุกที่ขณะนั่งประจำการในรถยนต์
และอีกหนึ่งอย่างที่หลายคนให้ความสนใจคือ
การนำรถที่มีสมรรถนะสูงเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานป้องกันและปราบปราม
โดยเฉพาะในพื้นที่เขาสูงชัน ยากต่อการเดินทางด้วยรถยนต์ รถยูทีวี และเอทีวี
จึงเป็นตัวเลือกที่นำมาใช้ในการปฏิบัติงาน เนื่องจากเป็นรถที่มีความคล่องตัว
สามารถปฏิบัติงานได้ในทุกพื้นที่ รวมถึงการนำเจ็ทสกีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการทางน้ำของ
ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.)
นอกจากเปิดตัวรถตรวจการณ์ 4.0 แล้ว
กรมป่าไม้ยังได้เปิดระบบพิทักษ์ไพร
ซึ่งเป็นระบบที่กรมป่าไม้ได้ร่วมมือกับสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
หรือจิสด้า พัฒนาระบบตรวจสอบพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุก
เพื่อเป็นการควบคุมปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าทั่วประเทศ
โดยระบบดังกล่าวจะใช้ดาวเทียมตรวจสอบ หากพบพื้นที่ถูกบุกรุก
จะส่งข้อมูลมายังระบบพิทักษ์ไพร ซึ่งสามารถรับข้อมูลผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
และเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ควบคุมระบบตรวจสอบความถูกต้อง
ว่าพื้นที่ดังกว่าอยู่ในพื้นป่าอนุรักษ์ ป่าสงวน หรือป่าชายเลนหรือไม่ ถ้าใช่จะส่งข้อมูลไปยังศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
(ศปก.พป.) เพื่อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตามหน่วยป้องกันรักษาป่าลงพื้นที่ตรวจสอบ
และดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น