วันที่ 19 ตุลาคม 2560 เวลา 09.30 น. ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
(ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ
กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีตรวจพบการบุกรุกที่ดินป่าไม้ประกอบธุรกิจโหนสลิงผจญภัย (Zipline) ท้องที่อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
สืบเนื่องจากที่นายชลธิศ
สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกรมป่าไม้
ดำเนินการตรวจสอบดำเนินคดีกับ กิจการซิปไลน์ที่ผิดกฎหมายในเขตป่าไม้ทั่วประเทศ
และศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
ได้รับการประสานจาก พลอากาศเอก ถาวร มณีพฤกษ์ คณะทำงานรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก
ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ให้ประสานการปฏิบัติงานเชิงบูรณาการร่วมกับ พลตำรวจตรี
สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมบูรณาการลงพื้นที่ตรวจสอบม่อนแจ่มซิปไลน์
และฟลายอิ้งสควอเรียส ให้บริการกิจกรรมผจญภัยโรยตัวและโหนสลิง
ซึ่งบุกรุกที่ดินป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ท้องที่ ม.4 ต.โป่งแยง
อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้ คณะเจ้าหน้าจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรมป่าไม้ กรมที่ดิน โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ทหาร รส.ที่
3 กกล.รส.จว.ชม.ภายใต้การอำนวยการของ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้
ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า และ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล
รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
ม่อนแจ่มซิปไลน์ ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่บางส่วนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม ทั้งนี้อยู่ในเขตลุ่มน้ำชั้น 1
ด้วยและพื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตโครงการหลวงหนองหอย
คณะพนักงานเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
กรณีพบการบุกรุกพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
กรณีตรวจพบสิ่งก่อสร้างที่ไม่ปลอดภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
และสิ่งก่อสร้างที่ตรวจพบกีดขวางทางน้ำ
ส่วนฟลายอิ้งสควอเรียส
จากการตรวจสอบ พบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม
ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ เตรียมดำเนินการรื้อถอนตามระเบียบ
พลตำรวจตรี
สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว
เปิดเผยว่า
การลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้เป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างหน่วยงาน
ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่ของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดในการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินป่าไม้ของกลุ่มนายทุน
และจากการร้องเรียนซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบธุรกิจโหนสลิงผจญภัยในท้องที่จังหวัดเชียงใหม่หลายรายที่บุกรุกเขตที่ดินป่าไม้
พื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1
ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตและสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้นฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
รวมถึงการปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ
และสิ่งก่อสร้างของกิจการดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างตามระเบียบและกฎหมาย
ทางเจ้าหน้าที่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายและทำลายทรัพยากรป่าไม้ของชาติให้ถึงที่สุด
และที่ผ่านมากิจการการท่องเที่ยวประเภทนี้เคยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประสบอุบัติเหตุจนขั้นเสียชีวิตและมีเรื่องมีราวการร้องเรียนเข้ามาจำนวนมากเพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวของประเทศ
ในขณะที่ นายอรรถพล เจริญชันษา
รองอธิบดีกรมป่าไม้ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.)
สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร
และหน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดการตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ดินป่าไม้
เพื่อประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโหนสลิงผจญภัย
ทั่วประเทศซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีไปแล้วในหลายๆพื้นที่ทั่วประเทศบางพื้นที่ได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว
ในจังหวัดเขียงใหม่ ตรวจสอบพบจำนวน 12 แห่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว 7 รายและดำเนินการรื้อถอนไปแล้วจำนวน
3 แห่งสำหรับวันนี้ในรายของม่อนแจ่มซิปไลน์เป็นอีกอีกจุดหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาขยายผลตรวจสอบเอกสารการครอบครองที่ดินที่
ผู้ประกอบการนำมาแสดงจนได้ข้อสรุปแล้วว่า
การยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติๆของม่อนแจ่มซิปไลน์นั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
คณะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ส่วนที่เหลือรายอื่นๆที่ทางผู้ประกอบการมีการนำเอาเอกสารสิทธิที่ดินมาแสดงทางชุดปฏิบัติการจะประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานของ
กรมที่ดิน ตามคำสั่งของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อร่วมดำเนินการต่อไปโดยขอให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
มายังศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.)
เพื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบจะได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น